กลุ่มอนุรักษ์ฟ้องผู้นำ อบต.ลำปาง พบแจ้งเท็จ ทำที่ดินหายร่วมหมื่นไร่

ลำปาง - ประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลำปาง พร้อมคณะขึ้นโรงพักฟ้องผู้นำ อบต.จดแจ้งข้อมูลเท็จ ทำพื้นที่ตำบลบ้านเป้า ถูกแบ่งเป็นเขตเทศบาลนับหมื่นไร่

วันนี้ (14 มี.ค.) นายบุญสม ชมพูมิ่ง ชาวบ้านหมู่ 4 ต.บ้านเป้า อ.เมือง จ.ลำปาง ประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพจังหวัดลำปาง พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เข้าพบ ร.ต.ท.ธนกฤต เพ็งสิน พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝาย อ.เมือง พร้อมนำเอกสารสำเนาหนังสือ ที่ ลป.72101 /736 ลว12 ตุลาคม 2555 ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านเป้า สำเนาแผนที่ท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องจัดตั้ง อบต.ต้นธงชัย เป็นเทศบาลตำบลต้นธงชัย ซึ่งเป็นเอกสารส่งแนบคดีของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ละที่ 2 ที่นายบุญสมกับพวกได้ฟ้องศาลปกครอง ในคดีขอแก้แนวเขตการปกครองตำบล ระหว่างตำบลบ้านเป้ากับตำบลต้นธงชัย และสำเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการกำหนดเขตตำบลในท้องที่ อ.เมือง ตามคดีหมายเลขดำ ที่ 435/2555 พร้อมแผนที่ ยื่นต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

นายบุญสมกล่าวว่า ในการฟ้องครั้งนี้มี 3 คน คือ นายถาวร วิไลรัตน์ อดีตนายก อบต.ต้นธงชัย น.ส.สุนันท์ ประพิตรไพศาล ปลัด อบต.ต้นธงชัย และนายถาวร อินทิยศ หัวหน้าส่วนโยธา อบต.ต้นธงชัย เพราะก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเทศบาลตำบลต้นธงชัย ได้มีการประชุมและแสดงเอกสารต่างๆประกอบในการพิจารณา ปรากฏว่าที่ประชุมไม่ได้นำแผนที่ของกระทรวงมหาดไทย ตามประกาศลงวันที่ 3 เมษายน 2541 มาแสดง ทำให้เนื้อที่ของ ต.บ้านเป้า ถูกแบ่งไปเป็นของเทศบาลตำบลพิชัยใหม่ ประมาณ 1 หมื่นไร่

ต่อมาตนได้รับเอกสารแผนที่อีกฉบับจากศาล จึงทราบว่ามีการหมกเม็ดนำแผนที่อีกฉบับมาแสดง ทำให้ตำบลของตนต้องเสียที่ดินไปในที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดแจ้งให้เจ้าหน้าที่พนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารทางราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

นายบุญสมกล่าวว่า จากนี้ตนจะกลับมาแจ้งดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องเพิ่มตามมาตรา 157 อีกครั้งหนึ่ง