กาญจนบุรี - มือปืนยิงหนุ่มวัย 37 กลายเป็นศพเฝ้าป่าชุมชนที่แท้ผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนซี้ที่ไปล่าไก่ป่าตอนกลางคืนด้วยกัน ล่าสุด ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อตำรวจแล้ว พร้อมเปิดปากสารภาพขณะเข้าไปล่าไก่ป่าตอนกลางคืนเห็นเงาทะมึน และมีการเคลื่อนไหว ทำให้เข้าใจผิดนึกว่า “อีเห็น” เลยเหนี่ยวไกพอไปดูกลายเป็นเพื่อนรัก ไม่ใช่ “อีเห็น” ก่อนเผ่นหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพ นายสมยศ รักมี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณพงหญ้าภายในป่าชุมชนสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธลูกซองเข้าที่บริเวณแขนขวา และลำตัว ส่วนเพื่อนซี้ที่ไปล่าไก่ป่าด้วยกันคือ นายสุวิทย์ อ้วนพรหมมา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเนื่องจากหลังเกิดเหตุได้หายตัวไปพร้อมอาวุธลูกซองยาว โดยพบศพเมื่อเวลา 16.45 น. ของวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมา เวลา 14.00 น.วันนี้ (12 มี.ค.) นายสุวิทย์ อ้วนพรหมมา ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.สมเกียรติ แสวงสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) หนองปรือ พ.ต.ท.อำนวย ฉ่ำมะนา รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร (รอง ผกก.สส.สภ.) หนองปรือ พ.ต.ต.กาจภณ ปฐมัง สารวัตรกองบังคับการตำรวจสืบสวน (สว.กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรี และ พ.ต.ท.วิสุทธิ์ นุชนิ่ม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.หนองปรือ เจ้าของคดี โดยนายสุวิทย์ รับสารภาพว่า เป็นผู่ก่อเหตุใช้อาวุธลูกซองยาว ยิงนายสมยศ เสียชีวิตจริง
นายสุวิทย์ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ตนกับผู้ตายเป็นเพื่อนกัน โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนกับผู้ตายได้ชวนกันไปดักซุ่มยิงไก่ป่าภายในป่าชุมชน ตกกลางคืนตนได้ไปซุ่มอยู่ในป่าเพื่อรอยิงไก่ป่าอยู่ จากนั้นตนสังเกตเห็นว่าบริเวณพงหญ้าเงาทะมึน และมีการเคลื่อนไหว ตนคิดว่าคงไม่ใช่ไก่ป่าแน่นอน และน่าจะเป็นตัวอีเห็น ตนจึงตัดสินใจเหนี่ยวไกอาวุธปืนลูกซองยาวไป 1 นัด เมื่อเห็นแน่นิ่งจึงวิ่งไปดู เมื่อไปถึง และเห็นร่างดังกล่าวตนถึงกับตกใจ เพราะมันไม่ใช่ตัวอีเห็นอย่างที่คิด แต่กลับเป็นร่างของเพื่อนที่ไปล่าไก่ป่าด้วยกันนอนจมกองเลือด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ด้วยความตกใจหลังเกิดเหตุได้ตัดสินใจกลับบ้านแล้วเก็บเสื้อผ้า และหลบหนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้นำไปโยนทิ้งลงในลำห้วยที่อยู่ใกล้กัน แต่สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหวจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวดังกล่าว”
พ.ต.อ.สมเกียรติ แสวงสุข ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป แต่มาในวันนี้ผู้ต้องหาได้ประสานมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนาที่จะก่อเหตุ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า ผู้ต้องหา และคนตายยังเป็นเพื่อนที่สนิทที่ซี้กันมาก เคยเข้าป่าด้วยกันบ่อยครั้งและคบกันมาตั้งแต่เด็ก
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนา ซึ่งทางญาติของผู้เสียหายก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำตามหน้าที่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพ นายสมยศ รักมี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณพงหญ้าภายในป่าชุมชนสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธลูกซองเข้าที่บริเวณแขนขวา และลำตัว ส่วนเพื่อนซี้ที่ไปล่าไก่ป่าด้วยกันคือ นายสุวิทย์ อ้วนพรหมมา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเนื่องจากหลังเกิดเหตุได้หายตัวไปพร้อมอาวุธลูกซองยาว โดยพบศพเมื่อเวลา 16.45 น. ของวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมา เวลา 14.00 น.วันนี้ (12 มี.ค.) นายสุวิทย์ อ้วนพรหมมา ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.สมเกียรติ แสวงสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) หนองปรือ พ.ต.ท.อำนวย ฉ่ำมะนา รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร (รอง ผกก.สส.สภ.) หนองปรือ พ.ต.ต.กาจภณ ปฐมัง สารวัตรกองบังคับการตำรวจสืบสวน (สว.กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรี และ พ.ต.ท.วิสุทธิ์ นุชนิ่ม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.หนองปรือ เจ้าของคดี โดยนายสุวิทย์ รับสารภาพว่า เป็นผู่ก่อเหตุใช้อาวุธลูกซองยาว ยิงนายสมยศ เสียชีวิตจริง
นายสุวิทย์ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ตนกับผู้ตายเป็นเพื่อนกัน โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนกับผู้ตายได้ชวนกันไปดักซุ่มยิงไก่ป่าภายในป่าชุมชน ตกกลางคืนตนได้ไปซุ่มอยู่ในป่าเพื่อรอยิงไก่ป่าอยู่ จากนั้นตนสังเกตเห็นว่าบริเวณพงหญ้าเงาทะมึน และมีการเคลื่อนไหว ตนคิดว่าคงไม่ใช่ไก่ป่าแน่นอน และน่าจะเป็นตัวอีเห็น ตนจึงตัดสินใจเหนี่ยวไกอาวุธปืนลูกซองยาวไป 1 นัด เมื่อเห็นแน่นิ่งจึงวิ่งไปดู เมื่อไปถึง และเห็นร่างดังกล่าวตนถึงกับตกใจ เพราะมันไม่ใช่ตัวอีเห็นอย่างที่คิด แต่กลับเป็นร่างของเพื่อนที่ไปล่าไก่ป่าด้วยกันนอนจมกองเลือด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ด้วยความตกใจหลังเกิดเหตุได้ตัดสินใจกลับบ้านแล้วเก็บเสื้อผ้า และหลบหนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้นำไปโยนทิ้งลงในลำห้วยที่อยู่ใกล้กัน แต่สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหวจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวดังกล่าว”
พ.ต.อ.สมเกียรติ แสวงสุข ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป แต่มาในวันนี้ผู้ต้องหาได้ประสานมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนาที่จะก่อเหตุ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า ผู้ต้องหา และคนตายยังเป็นเพื่อนที่สนิทที่ซี้กันมาก เคยเข้าป่าด้วยกันบ่อยครั้งและคบกันมาตั้งแต่เด็ก
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนา ซึ่งทางญาติของผู้เสียหายก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำตามหน้าที่ต่อไป
