เพชรบุรี - ตำรวจเพชรบุรี เร่งติดตามแก๊งต้องสงสัย 3 กลุ่ม คาดเกี่ยวข้องกับการฆ่าช้างป่า “กลุ่มที่เคยก่อเหตุและออกหมายจับไว้แล้ว กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ และกลุ่มคนมีสีที่มีอาวุธและชอบล่าสัตว์” ด้านอุทยานฯ ขอให้ทางกรมชลประทานนำบุคคลที่อาศัยอยู่ริมอ่างเก็บน้ำออกมาอยู่ด้านนอก จะช่วยให้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับช้างลดลง
วันนี้ (12 มี.ค.) นายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้า และวางมาตรการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับช้าง ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมี พ.อ.สิงห์ทอง หมีทอง รอง ผบ.กองกำลังสุรสีห์ รอง ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 นายอรรถพล แจ้งเรือง นายก อบต.ป่าเด็ง พ.อ.อดิศร โครพ ผบ.ฉก.ทัพพระยาเสือ กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.ต.พรชัย แช่มช้อย ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 144 พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.แก่งกระจาน พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมประชุม
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมแก๊งฆ่าช้างป่าว่า หัวกระสุนปืนที่พบจากการช้างนั้นน่าจะเป็นหัวกระสุนที่ยิงออกมาจากปืน 3 ชนิด คือ อาก้า หรือเอ็ม 16 และปืนไรเฟิล เพราะเป็นหัวกระสุนที่ยิงออกมาจากปืนยิงเร็ว และชนิดร้ายแรง
ส่วนกลุ่มก่อเหตุนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตรวจสอบ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มของนายสมพร จอกาย นายสมบูรณ์ เวนะ และนายจอตะกี หรือเจนชัย ที่เคยก่อเหตุ และออกหมายจับไว้แล้ว กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องที่ทำกินอาจจะใช้ปืนยิงช้างแล้วช้างหนีไปตายใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์ และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มคนมีสี ที่มีอาวุธ และชอบล่าสัตว์
ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้กล่าวขอให้ทางจังหวัดเพชรบุรี เร่งประสานงานกับกรมชลประทานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ที่มีพื้นที่ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นพื้นที่ช้างป่าอาศัยอยู่ ดำเนินการนำเอาบุคคลที่ไปอยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำด้านในออกมาข้างนอก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ปลูกหญ้าให้ช้าง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ แปลงหญ้าที่ปลูกให้ช้างกิน ช้างกลับไม่ได้กิน แต่จะมีแพะซึ่งทางผู้ที่ไปอาศัยอยู่เลี้ยงไว้จำนวนมากมากินแทน หรือไม่เวลาช้างลงมากินหญ้าก็จะถูกผู้ที่อาศัยอยู่ริมอ่างเก็บน้ำจุดลูกป้งขับไล่ ทำให้ช้างต้องออกไปหาในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านแทน ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกับช้าง กลายเป็นปัญหาไม่รู้จบ
“หากบริเวณริมอ่างเก็บน้ำด้านในไม่มีการอยู่อาศัยของชาวบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 1 รายเท่านั้น ช้างจะใช้เป็นสถานที่กินน้ำ พักอาศัย ทำให้ช้างไปรบกวนชาวบ้านน้อยลง นอกจากนั้น ยังง่ายต่อการตรวจสอบบุคคลที่จะเข้าป่า เพราะที่ผ่านมาทำไม่เต็มที่ เนื่องจากผู้ที่เดินทางเข้าไปในอ่างเก็บน้ำมักจะบอกว่าไปหาบุคคลที่อาศัยอยู่ด้านใน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องปล่อยเข้าไป หากจะช่วยช้างป่าใน ต.ป่าเด็ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องยื่นมือเข้ามาทำงานร่วมกันถึงจะแก้ปัญหาการล่าช้าง ปัญหาระหว่างคนกับช้าง ปัญหาช้างลงไปทำลายพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้ นอกจากนั้น ขอให้ฝ่ายปกครองทำการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าออกในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง อย่างเคร่งขัด โดยเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับช้าง หากมีการเคลื่อนไหวเข้ามา ต้องประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด”
