พิษณุโลก - โจรขโมยเมืองสองแควชุม ลักหมดทุกอย่างไม่เว้นเครื่องชงกาแฟสด ส่วนร้านค้าย่อยๆ คืนเดียวถูกงัดมาตรน้ำหายเข้ากลีบเมฆ 4 หลังรวด
วันนี้ (12 มี.ค. 56) ร.ต.อ.บุญสิงห์ สุทธิ ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก, ร.ต.อ.บุญสิงห์ สุทธิ ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขโมยเครื่องชงกาแฟ ร้าน BON CAFE ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟสด หน้าอาคารไทยศิวารัตน์ เลขที่ 59/19 ถนนบรมไตรโลกนารถ อ.เมืองพิษณุโลก จึงพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมือง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ น.ส.เขมิการ นาคทรงนันท์ ผู้จัดการร้าน BON CAFE สาขาพิษณุโลก พร้อมพนักงานร้านรอให้การอยู่
ตรวจสอบพบว่า จุดที่คนร้ายลงมือก่อเหตุขโมยเครื่องชงกาแฟเป็นซุ้มขายกาแฟสดที่ตั้งอยู่หน้าร้านโดยคนร้ายงัดตัวล็อกของซุ้ม แล้วเปิดฝาครอบออกถอดปลั๊กเครื่องชงกาแฟสดและสายน้ำที่ต่อกับเครื่อง จากนั้นยกเครื่องชงกาแฟสดไป 1 ชุดพร้อมเครื่องบดกาแฟ 1 ชุด เครื่องปั่นอีก 1 ชุด มูลค่ารวมประมาณ 100,000 บาท
สอบสวนพนักงานขายทราบว่า ร้าน BON CAFÉ สาขาพิษณุโลก เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟสด เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 09-18.00 น.มา 3 ปีแล้ว จุดที่คนร้ายขโมยเครื่องชงกาแฟสด เป็นซุ้มที่ร้านตั้งไว้สำหรับจำหน่ายกาแฟ และสาธิตให้ลูกค้าใช้เครื่อง โดยเมื่อ 08.00 น.วันนี้ เมื่อพนักงานมาเปิดร้านก็พบว่าฝาครอบซุ้มหน้าร้านถูกเปิดทิ้งไว้ และถูกคนร้ายขโมยอุปกรณ์ไป 3 ชุด ที่พื้นฟุตปาธมีน้ำเจิ่งนอง จากการถอดสายน้ำที่ต่อกับเครื่องชงกาแฟสดออก โดยพบร่องรอยคนร้ายงัดตัวล็อกของฝาครอบซุ้มกาแฟสด และร่องรอยการดึงท่อน้ำที่ต่อกับเครื่องด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบริษัท ดีเนตสปอร์ตเกมส์ จำกัด ร้านเกมที่อยู่ใกล้เคียงกับร้าน BOM CAFÉ สามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้ โดยพบว่าช่วงเวลา 02.28 น.วันเดียวกันนี้ คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะมาจอดริมถนนก่อนถึงร้าน BON CAFÉ เล็กน้อย จากนั้นคนร้าย 1 คนได้เดินลงจากรถเข้าไปงัดซุ้มขายกาแฟสด และลงมือถอดสายท่อน้ำที่ต่อกับเครื่องชงกาแฟ ขณะที่คนร้ายอีกคนได้ขับรถยนต์กระบะมาเทียบที่หน้าร้าน ก่อนที่จะช่วยกันยกเครื่องชงกาแฟ เครื่องบดกาแฟ และเครื่องปั่นขึ้นท้ายกระบะรถยนต์ แล้วขับออกไปทางตัวเมืองพิษณุโลกในเวลา 02.39 น.
ร.ต.อ.บุญสิงห์กล่าวว่า กล้องวงจรปิดเห็นพฤติกรรมคนร้ายว่ามา 2 คน แต่ไม่เห็นป้ายทะเบียน เห็นเพียงเป็นรถกระยะที่มีไฟท้ายติดหลังห้องผู้โดยสาร กำลังประสานดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าเพื่อตรวจสอบและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายนิ้วมือของคนร้าย คาดว่าผู้ลงมือก่อเหตุต้องเป็นคนที่มีความรู้เครื่องชงกาแฟสดอย่างดี รู้กลไกการทำงาน อาจจะเป็นคนที่แฝงเข้ามาทำท่าสอบถามข้อมูลเครื่องกับร้านค้าก่อนหน้านี้
วันเดียวกัน ร.ต.อ.บุญสิงห์ยังได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขโมยมาตรน้ำทองเหลืองตามบ้านพักบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ หลังโรงพยาบาลพุทธชินราช ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจชุดสายสืบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปลูกติดกันที่ห้องเลขที่ 3/37-40 ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลักมาตรวัดน้ำหายไปจำนวน 4 หัว สอบสวน น.ส.ญาณกร ตันแจ้ง อายุ 15 ปี เจ้าของอาคารพาณิชย์เลขที่ 5/39 บอกว่า เปิดเป็นร้านขายของชำด้านล่าง ด้านบนทำเป็นห้องพัก เช้าที่ผ่านมา เปิดน้ำ แต่น้ำประปาไม่ไหล ตรวจสอบพบว่ามาตรน้ำที่อยู่หน้าบ้านพักถูกคนร้ายขโมยหายไป นอกจากนี้ยังมีห้องพักใกล้เคียง ไม่มีคนอยู่อาศัย ถูกลักมาตรน้ำไปรวม 4 หัวด้วยกัน
น.ส.เบญจมาศ เหมือนเสมอใจ อายุ 37 ปี เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 11 มี.ค. 56 ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงสุนัขเห่า ออกมาดูตรงหน้าต่าง เห็นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อสี และทะเบียน มาจอดหน้าอาคารพาณิชย์ที่ถูกคนร้ายขโมยมาตรน้ำไป แต่ก็ไม่กล้าลงมาดูเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย กระทั่งรุ่งเช้าทราบว่าอาคารพาณิชย์ด้านข้างถูกคนร้ายขโมยมาตรน้ำไป 4 หลังด้วยกัน
น.ส.เบญจมาศบอกอีกว่า ปลายปีที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ของตนก็ถูกถูกคนร้ายขโมยไปเหมือนกัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และหามาตรการแก้ไข เช่น นำกล้องวงจรปิดมาติดไว้ตามถนนสายนี้ เนื่องจากมีผู้คนใช้สัญจรไปมาจำนวนมาก หากมีเหตุก็สามารถตรวจสอบได้