พระนครศรีอยุธยา - เจ้าของปั๊มน้ำมันกรุงเก่าโวยถูก 3 โจรบุกงัดบ้านกวาดทรัพย์สินกว่า 1 ล้านบาท ทั้งพระเครื่อง เครื่องเพชร สร้อยคอมุก ทองรูปพรรณ ภาพวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ชัดเจนแต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า วอนตำรวจเร่งล่าคนร้ายหวั่นไปก่อเหตุบ้านหลังอื่นอีก
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสุชารัตน์ ธีระพงศ์สกุล อายุ 49 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมถนนสาย 347 สายปทุมธานี-บางปะหัน ว่า ที่บ้านพักเลขที่ 15/8 ม.10 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของตนเองถูกคนร้ายบุกเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินจำนวนมาก มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน จำนวน 3 คน ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ไว้แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้ตนกลัวว่าคดีนี้จะเงียบหายไป และคนร้ายไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีก
นางสุชารัตน์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายเข้าโจรกรรมทรัพย์สินครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ตนเองไปทำธุระที่ จ.นครสวรรค์ คนร้าย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยคันที่มากัน 2 คน คนที่นั่งท้ายถือคันเบ็ดและกระป๋องน้ำสีเหลืองมาด้วย วิ่งผ่านหน้าบ้านไปแล้ววิ่งย้อนศรเข้ามาจอด จากนั้นคนร้ายหนึ่งคนที่ถือกระป๋องน้ำเข้ามาส่องมองที่หน้าต่างบ้านแล้วงัดหน้าต่างเข้าไปในบ้านเปิดประตูให้คนร้ายอีก 2 คนเข้ามารื้อค้นของภายในบ้านทั้งห้องทำงาน ห้องนอน ห้องพระ กวาดเอาทรัพย์สินที่เป็นเครื่องเพชร สร้อยคอมุก ทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 10 บาท อาวุธขนาด .22 1 กระบอก พระพุทธรูป พระเครื่องอีกจำนวนมาก รวมถึงเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ใส่กระเป๋าเดินทางแบบลาก และกระเป๋าสะพายที่อยู่ภายในบ้านหลบหนีออกไป รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1 ล้านบาท
“ที่ผ่านมา บ้านหลังนี้เดิมจะเปิดเป็นปั๊มน้ำมัน แต่ขออนุญาตไม่ได้จึงได้ไปเปิดอีกที่หนึ่ง และใช้เป็นบ้านพักอย่างเดียว และเคยถูกคนร้ายโจรกรรมทรัพย์สินมาแล้วรวม 4 ครั้ง ยังไม่เคยจับกุมคนร้ายได้เลย มีครั้งนี้คนร้ายได้ทรัพย์สินไปมากที่สุด มีทรัพย์สินหลายอย่าง ที่อยากได้คืนเพราะเป็นสมบัติของตนเอง และของสามีที่ได้มาจากการทำงานจะเก็บเอาไว้ให้ลูกสาว พยายามติดตามสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอดแต่ไม่มีความคืบหน้า ทราบจากเพื่อนบ้านกันว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 2 คน มีการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องสงสัย ยึดกระเป๋าสะพายไปด้วยแต่ยังไม่ทราบว่าใช่กลุ่มคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาให้ได้ และอยากได้ทรัพย์สินคืนเพราะทรัพย์สินบางรายการสำคัญทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก”
