พระนครศรีอยุธยา - สั่งเด็ดขาดไล่ล่า ตชต.ปืนโหดยิงสองผัวเมียเพื่อนบ้านดับ 2 ศพ พฤติกรรมโหดเหี้ยม ผู้การกรุงเก่าเตือนหากต่อสู้ขัดขืนให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
วันนี้ (8 มี.ค.) พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 7 มีนาคม ได้รับรายงานจาก ร.ต.ท.ภัทรพล บุญเกษม พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุ นายวินัย จันทร์ลอย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 483/6 ม.3 บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพขับรถแท็กซี่ อดีต ตชต.ของ สภ.บางปะอิน ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายไพฑูรย์ หอกลาง อายุ 34 ปี และนางสุทธาดา หอกลาง อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 483/1 ม.3 บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วหลบหนีไป
ในที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนมาก ปลอกกระสุน หัวกระสุน ขนาด 9 มม. ตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ ที่บริเวณถนนทางเข้าบ้านยังพบปลอกกระสุนปืนตกกระจายเกลื่อนอีกจำนวนหลายปลอก รวมปลอกกระสุนที่พบจำนวน 32 ปลอก บ้านฝั่งตรงข้าม และบ้านที่อยู่ติดกันถูกกระสุนปืนตัวบ้าน และรถยนต์ที่อยู่ในบ้านได้รับความเสียหาย ที่บริเวณริมรั่วหน้าบ้านพบโต๊ะกลมขนาดเล็กตั้งอยู่บนถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.กรเอก กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ติดตามคนร้ายทันที พบว่า คนร้ายได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป ซึ่งตอนนี้ได้ออกหมายจับแล้ว เบื้องต้น ตั้งขอหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาปืนในเมืองหมู่บ้านหรือสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้ได้มีการสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดไล่ล่าออกเป็น 4 ชุด ลงพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ไปตามจุดที่ นายวินัย เคยอาศัยอยู่แต่ยังไม่พบตัว
สำหรับพฤติกรรมของ นายวินัย เคยเป็น ตชต. ของ สภ.บางปะอิน ตั้งแต่ปี 2552 แต่ระยะหลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมชอบไปข่มขู่ชาวบ้าน มีอุปนิสัยใจร้อน พูดจาโผงผาง เวลาเด็กๆ เล่นกันข้างบ้านซึ่งเป็นลานอเนกประสงค์ก็จะมาไล่ และข่มขู่และทำตัวเหมือนตำรวจเรียกตรวจค้นรถ จยย. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมามาก ทาง สภ.บางปะอิน จึงได้ให้ออกจาก ตชต. โดยไม่ทำการต่อบัตรให้ ขอให้ประชาชนที่พบเห็น หรือรู้เบาะแสของนายวินัย ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะนายวินัยมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม และมีลักษณะเหมือนคนจิตไม่ปกติ
หากมีการต่อสู้ หรือขัดขืนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทันที และจากการตรวจค้นในบ้านพักของ นายวินัย พบภาพถ่ายแต่งกายในเครื่องแบบ ตชต.เต็มยศ ยืนถืออาวุธปืนเอชเค นับว่ามีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายอย่างมาก และยังพบกล่องบรรจุกระสุนเปล่า 2 กล่อง กล่องละ 50 นัด จากปลอกกระสุนที่ก่อเหตุ จำนวน 32 ปลอก หมายความว่าตัวคนร้ายพร้อมอาวุธปืนยังคงมีกระสุนปืนจำนวนมากที่ติดตัวไปด้วย ซึ่งถ้าคนร้ายต่อสู้ หรือขัดขืนเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานในเฟซบุ๊ก และกลุ่มแฟนเพจต่างๆ นำภาพถ่ายของนายวินัย จันทร์ลอย มือปืน โพสต์แชร์ต่อกันจำนวนมาก พร้อมทั้งรุมสาปแช่งประณามกันต่างๆ นานา และขอให้แจ้งเบาะแสของนายวินัย ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
วันนี้ (8 มี.ค.) พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 7 มีนาคม ได้รับรายงานจาก ร.ต.ท.ภัทรพล บุญเกษม พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุ นายวินัย จันทร์ลอย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 483/6 ม.3 บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพขับรถแท็กซี่ อดีต ตชต.ของ สภ.บางปะอิน ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายไพฑูรย์ หอกลาง อายุ 34 ปี และนางสุทธาดา หอกลาง อายุ 36 ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 483/1 ม.3 บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วหลบหนีไป
ในที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนมาก ปลอกกระสุน หัวกระสุน ขนาด 9 มม. ตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ ที่บริเวณถนนทางเข้าบ้านยังพบปลอกกระสุนปืนตกกระจายเกลื่อนอีกจำนวนหลายปลอก รวมปลอกกระสุนที่พบจำนวน 32 ปลอก บ้านฝั่งตรงข้าม และบ้านที่อยู่ติดกันถูกกระสุนปืนตัวบ้าน และรถยนต์ที่อยู่ในบ้านได้รับความเสียหาย ที่บริเวณริมรั่วหน้าบ้านพบโต๊ะกลมขนาดเล็กตั้งอยู่บนถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.กรเอก กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ติดตามคนร้ายทันที พบว่า คนร้ายได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป ซึ่งตอนนี้ได้ออกหมายจับแล้ว เบื้องต้น ตั้งขอหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาปืนในเมืองหมู่บ้านหรือสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้ได้มีการสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดไล่ล่าออกเป็น 4 ชุด ลงพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ไปตามจุดที่ นายวินัย เคยอาศัยอยู่แต่ยังไม่พบตัว
สำหรับพฤติกรรมของ นายวินัย เคยเป็น ตชต. ของ สภ.บางปะอิน ตั้งแต่ปี 2552 แต่ระยะหลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมชอบไปข่มขู่ชาวบ้าน มีอุปนิสัยใจร้อน พูดจาโผงผาง เวลาเด็กๆ เล่นกันข้างบ้านซึ่งเป็นลานอเนกประสงค์ก็จะมาไล่ และข่มขู่และทำตัวเหมือนตำรวจเรียกตรวจค้นรถ จยย. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมามาก ทาง สภ.บางปะอิน จึงได้ให้ออกจาก ตชต. โดยไม่ทำการต่อบัตรให้ ขอให้ประชาชนที่พบเห็น หรือรู้เบาะแสของนายวินัย ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะนายวินัยมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม และมีลักษณะเหมือนคนจิตไม่ปกติ
หากมีการต่อสู้ หรือขัดขืนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทันที และจากการตรวจค้นในบ้านพักของ นายวินัย พบภาพถ่ายแต่งกายในเครื่องแบบ ตชต.เต็มยศ ยืนถืออาวุธปืนเอชเค นับว่ามีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายอย่างมาก และยังพบกล่องบรรจุกระสุนเปล่า 2 กล่อง กล่องละ 50 นัด จากปลอกกระสุนที่ก่อเหตุ จำนวน 32 ปลอก หมายความว่าตัวคนร้ายพร้อมอาวุธปืนยังคงมีกระสุนปืนจำนวนมากที่ติดตัวไปด้วย ซึ่งถ้าคนร้ายต่อสู้ หรือขัดขืนเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานในเฟซบุ๊ก และกลุ่มแฟนเพจต่างๆ นำภาพถ่ายของนายวินัย จันทร์ลอย มือปืน โพสต์แชร์ต่อกันจำนวนมาก พร้อมทั้งรุมสาปแช่งประณามกันต่างๆ นานา และขอให้แจ้งเบาะแสของนายวินัย ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
