สกลนคร - ชาวบ้านจาก 4 หมู่บ้านริมหนองหารเดือดร้อนอย่างหนัก เหตุเครื่องสูบน้ำหยุดทำงานมานานกว่า 2 เดือน ทำให้พื้นที่การเกษตรขาดน้ำ เสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านจาก 4 หมู่บ้านริมบึงหนองหาร เดือดร้อนหนัก เนื่องมาจากเครื่องสูบน้ำหยุดทำงานมานานกว่า 2 เดือน พื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ เกษตรกรบางรายต้องหิ้วถังน้ำรดต้นปาล์ม และต้นยางพารา ก่อนจะแห้งเหี่ยวยืนต้นตาย
ล่าสุดผู้นำชุมชนชาวบ้านท่าศาลา ต.บ้านแป้น อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร นำสื่อมวลชนไปตรวจดูสภาพเครื่องสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าที่ท่าน้ำหนองหารของท้ายหมู่บ้านที่หยุดทำงานมานานกว่า 2 เดือน สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวน 4 หมู่บ้าน ขาดแคลนน้ำใช้ และเลี้ยงสัตว์ รวมถึงข้าวนาปรังที่เกษตรกรผู้ปลูกต้องอาศัยน้ำจากคลองระบายน้ำดังกล่าวเพื่อหล่อเลี้ยง หากรอไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ข้าวนาปรังและพืชผลการเกษตรจะตายเกลี้ยงหมด
นายดาวรุ่ง เพ็งสว่าง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านท่าศาลา กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2529 มีเครื่องสูบด้วยพลังไฟฟ้าที่สามารถหล่อเลี้ยงชาวบ้านในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน มีบ้านน้ำพุ บ้านบึงศาลา บ้านจอมแจ้ง และบ้านท่าศาลา เนื้อที่กว่า 2,000-3,000 ไร่ แต่ปีนี้กลับพบว่าแล้งจัดและได้สำรวจผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนทั้งหมดขณะนี้ประมาณ 2,000 ไร่ จำนวนกว่า 300 ครอบครัว
ทั้งนี้ หลังจากเครื่องสูบน้ำหยุดทำงานไปนานกว่า 2 เดือน ทราบว่าความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ได้ขยายเป็นวงกว้างและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จึงเรียกร้องผ่านสื่อฯ ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้รีบมาช่วยแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ลำบากมาก
โดยความต้องการของชาวบ้านตอนนี้ คือ ขอให้ซ่อมปรับปรุงเพื่อใช้งานได้ก่อน และยังพบว่าบริเวณปากท่อ และคลองระบายน้ำเต็มไปด้วยเศษใบไม้และกิ่งไม้จำนวนมาก นอกจากนั้นบานประตูปิด-เปิดคลองระบายก็ไม่มี ปล่อยทิ้งไว้ว่างเปล่า ชาวบ้านต้องหาแผ่นเหล็กมาปิดกั้นเพื่อเปลี่ยนทิศทางน้ำไหล ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น