แห่โลงศพประท้วงถึงโรงพักลำปาง อ้างทำสำนวนคดีรถชนเพี้ยน

ลำปาง - ญาติผู้ตายไม่พอใจตำรวจทำสำนวนผิดเพี้ยน แห่โลงศพประท้วงที่ สภ.ต.เมืองปาน จังหวัดลำปาง ด้านตำรวจเจ้าของคดีระบุทำคดีอย่างตรงไปตรงมา

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 1 ต.บ้านค่า อ.เมืองปาน จังหวัดลำปาง นางขจร จริงมาก อายุ 45 ปี พร้อมชาวบ้านประมาณ 150 คน ได้แห่โลงศพซึ่งภายในบรรจุศพ นายวิรัช เครือยอด อายุ 41 ปี สามี ไปที่ สภ.ต.เมืองปาน หลังนายวิรัชขี่จักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุบริเวณบ้านทุ่งจี้ เวลาประมาณ 19.00 น.เศษของวันเสาร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา

สำหรับสาเหตุที่ญาติไม่พอใจนั้น เนื่องจากญาติอ้างว่าในวันที่เกิดเหตุจักรยานยนต์ของนายวิรัช ถูกรถกระบะชนท้าย ร่างนายวิรัชกระเด็นข้ามไปตกอีกฟากของถนนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นญาติอ้างต่อว่าได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุภาพ คำภูยศ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้รับแจ้งว่าผู้ตายขี่จักรยานยนต์สวนเลนมา และจักรยานยนต์เสียหลักจนผู้ตายตกจากรถหัวกระแทกพื้นเสียชีวิต ส่วนจักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายขับขี่มาด้วยความเร็วได้หมุนข้ามเลน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์กระบะวิ่งสวนมาจึงชนกับท้ายจักรยานยนต์พอดี

หลังจากนางขจรและญาติทราบเรื่องการเขียนในสำนวนของตำรวจ ต่างไม่พอใจและเดินทางกลับไปที่งานศพ และต่อมาในวันนี้ญาติและเพื่อนบ้านทั้งหมดประมาณ 150 คนได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองปาน พร้อมนำโลงซึ่งบรรจุศพนายวิรัชไปประท้วงที่ สภ.เมืองปาน

นางขจรกล่าวต่อว่า จากการดูรูปของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานแล้วพบว่า นายวิรัชผู้ตาย ขี่รถมาทางเดียวกันกับที่รถกระบะวิ่งมา คือนายวิรัชจะไปกินเหล้าบ้านเพื่อน แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ รถกระบะซึ่งตามท้ายมาได้เฉี่ยวชนท้ายรถของนายวิรัชจนกระเด็นข้ามเลนไปฝั่งตรงข้าม ศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ ตนและญาติไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะรอยชนที่ล้อรถด้านหลังและที่โช้กด้านหลังของจักรยายยนต์ก็อยู่ในระดับเดียวกันกับกันชนของรถกระบะคันที่ก่อเหตุ ตนเป็นคนจนอาชีพรับจ้างไม่มีปัญญาจะไปสู้รบปรบมือกับใคร แต่ที่ออกมาเรียกร้องก็เพื่อขอความยุติธรรมให้สามีเท่านั้น

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.สุภาพ คำภูยศ พนักงานสอบสวนและเจ้าของคดีดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ในจุดเกิดเหตุเห็นได้ชัดว่าผู้ตายขี่จักรยานยนต์มาคนละเลนกับรถกระบะคู่กรณี และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายเป็นผู้ขี่มาเห็นสัญญาณไฟวาบของเจ้าหน้าที่บริเวณทางข้ามหน้าตลาดนัด เกิดตกใจกลัวคิดว่าเป็นด่านตรวจจึงเบรกรถและเสียหลักพลัดตกลงมาจากจักรยานยนต์ ศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่

ส่วนจักรยานยนต์ซึ่งมาด้วยความเร็วได้เสียหลักชนท้ายจักรยานยนต์หมุนไปชนกับกันชนหน้ารถกระบะซึ่งขับสวนเลนมาพอดี โดยตำรวจมีหลักฐานแสดงได้อย่างชัดเจน และนายวิรัชเองนายจ้างก็ยืนยันว่าเมาเหล้ามาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด

สำหรับข้อยุติหลังนางขจรพร้อมญาติได้แห่ศพไปประท้วงที่ สภ.เมืองปาน พบว่าเจ้าหน้าที่ได้นัดให้ญาติเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันเสาร์ที่จะถึงนี้เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและพบคู่กรณีต่อไป