เชียงราย - จังหวัดทหารบกเชียงรายเปิดอบรม “มิสเตอร์เตือนภัย” ประจำปี 2556 เน้นอาสาสมัครในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะใน 3 อำเภอของเชียงราย ด้าน ปภ.แจ้งบ้านเรือนเสียหายจากพายุฤดูร้อนที่ถล่มเมื่อหลายวันก่อน ส่งผลให้บ้านเรือนเสียหายเกือบหนึ่งพันหลัง สวนลำไยเสียหายกว่า 100 ไร่
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่หน่วยฝึกวิชาทหาร จังหวัดทหารบกเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย พ.อ.พัฒนา มาตร์มงคล รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเครือข่ายอาสาสมัครเตือนภัย “มิสเตอร์เตือนภัย” ประจำปี 2556 โดยมีผู้เข้าร่วมรับการอบรมจากหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยอุทกภัย และดินโคลนถล่มจาก อ.เมือง อ.แม่ลาว และ อ.พญาเม็งราย รวมทั้งหมด 35 หมู่บ้านๆ ละ 2 คน เมื่อรวมกับอาสาสมัครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งสิ้น 150 คน โดยต่างมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจากดินถล่ม หรือโคลนถล่ม อุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก
นายณรงค์ อินโส หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย กล่าวว่า ในการฝึกอบรมจะเน้นให้ประชาชนและอาสาสมัครในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยเป็นสำคัญ เพื่อลดความรุนแรงและความสูญเสียที่อาจจะเกิดกับผู้ประสบภัยพิบัติโดยตรง
มิสเตอร์เตือนภัยจะทำหน้าที่ประสานงานและแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ฯลฯ เพื่อให้ร่วมกันเข้าไปป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที ทั้งด้านการซ้อมแผนเตือนภัยและอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง
“ภารกิจอาสาสมัครคือเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ตรวจวัดระดับน้ำ ปริมาณน้ำฝน และใช้เครื่องมือสื่อสารแจ้งเตือนภัยได้อย่างรวดเร็วเป็นการลดความสูญเสีย จากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ชุมชนมีศักยภาพในการเตรียมรับมือกับภัยพิบัติทั้งช่วงก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับความสูญเสียน้อยที่สุด” นายณรงค์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วันเดียวกันสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 12 แห่งในเขต อ.เมือง อ.พาน อ.ป่าแดด อ.เวียงชัย และ อ.เทิง ได้นำกระเบื้องไปมอบแก่ประชาชนผู้ประสบภัยพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เพื่อนำไปซ่อมแซมหลังคาแทนกระเบื้องที่แตกเสียหายจากแรงพายุฤดูร้อนเมื่อวัน ที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากการสำรวจความเสียหายทั้งหมดพบว่า มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหมด 855 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรโดยเฉพาะสวนลำไยประมาณ 100 ไร่ ซึ่งสำนักงานได้เสนอต่อจังหวัดให้ประกาศเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากวาตภัยแล้ว