ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผบช.ตร.ภ.4 เรียกประชุมด่วนผู้บังคับการตำรวจภูธร 12 จังหวัดอีสานบน ย้ำกวดขันกวาดล้างบ่อนพนันออนไลน์ ชี้กรณีดีเอสไอลงพื้นที่บุกจับร้านเน็ตเปิดเล่นพนันในขอนแก่นสัปดาห์ก่อนไม่ใช่ความหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท้องที่ ลั่นจากนี้ไปหากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยจะถูกเอาผิดทางวินัย
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 เรียกประชุมด่วน ผบก.ภ.จว.จากทั้ง 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบนในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อทบทวนแนวทางการปฎิบัติงานในด้านการกวาดล้างปราบปรามอบายมุขในทุกพื้นที่ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ “ดีเอสไอ” ได้ลงพื้นที่บุกจับกุมการเล่นการพนันบักคาราออนไลน์ในเขต จ.ขอนแก่น
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ด้วยภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาก และจะต้องรับผิดชอบงานที่ครอบคลุมรอบด้านทำให้มิจฉาชีพ หรือกลุ่มที่ต้องการฝ่าฝืนกฎหมายพยายามทุกวิถีทางในการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งการจับกุมบ่อนการพนันออนไลน์ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ของดีเอสไอ ถือเป็นการประสานการทำงานร่วมกันจนนำไปสู่การจับกุม
“ทั้งนี้ ไม่ได้ถือว่าการทำงานของตำรวจท้องที่หย่อนยาน หรือปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด นักพนันต่างหากที่พยายามหาทุกวิถีทางในการลักลอบเล่นการพนัน”
พล.ต.ท.กวี ระบุว่า การพนันในรูปแบบออนไลน์นั้นสามารถที่จะเล่นได้ทุกที่ขอแค่มีเพียงอินเทอร์เน็ต และเครือข่ายของการควบคุมระบบดังกล่าวนั้นอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งจากนี้ไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรัดกุม และดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่ และพยายามศึกษาระบบและขั้นตอนของการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว ซึ่งหากพบว่าพื้นที่ใดมีการจับกุมจากหน่วยงานอื่นโดยที่ตำรวจท้องที่ไม่รู้ก็จะมีการเอาผิดทางวินัยทันที
โดยต่อจากนี้ไปในทุกสัปดาห์ ทุกท้องที่จะต้องมีการรายงานผลการจับกุมเฉพาะประเด็นการลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ เพื่อปราบปรามแหล่งอบายมุขในพื้นที่ให้หมดไปอย่างเด็ดขาด โดยใช้กำลังหลักของตำรวจท้องที่ในการระดมกวาดล้างจับกุม ในขณะเดียวกันกำลังจากส่วนกลาง โดย บก.สสว.ภ.4 จะเข้าไปในพื้นที่เมืองใหญ่เพื่อประสานการทำงานร่วมกันกับตำรวจท้องที่
ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.ขอนแก่น, อุดรธานี, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, สกลนคร และหนองคาย ทั้งหมดจะถูกเพิ่มความเข้มงวด รวมไปถึงพื้นที่จังหวัดที่เป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาทุกระดับทั้งหมดจะมีการตรวจสอบอย่างชัดเจน เนื่องจากกลุ่มนักพนันต่างใช้ร้านอินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ของการเล่นพนันออนไลน์แทบทั้งหมด
ผบช.ภ.4 กล่าวอีกว่า ส่วนการปราบปรามยาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมเป็นสิ่งที่ตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อบายมุขในรูปแบบของการเล่นพนันออนไลน์เป็นเรื่องใหม่ที่ตำรวจจะต้องศึกษา และค้นคว้าเพื่อนำไปสู่การจับกุมให้ได้ในที่สุด ซึ่งร้านเกมอินเทอร์เน็ต ยังคงเป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญที่ตำรวจจะต้องเข้าไปตรวจสอบ และจัดทำเป็นทะเบียนประวัติข้อมูลเพื่อทำการตรวจสอบ รวมไปถึงขั้นตอนของการตรวจสอบอย่างละเอียด