ระยอง - ชาวบ้านปลวกแดงโวยทิ้งขยะสารพิษโรงงานอุตสาหกรรมบนที่ดินกว่า 10 ไร่ ใกล้คลองสาธารณะ หวั่นน้ำซึมใต้ดินปนเปื้อนสารพิษไหลลงอ่างหนองปลาไหล
วันนี้ (25 ก.พ.) ชาวบ้าน ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ร้องสื่อมวลชนกรณีเอกชนใช้รถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์จำนวนหลายสิบคัน ขนขยะสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง มาทิ้งในพื้นที่ของเอกชนรายหนึ่งกว่า 10 ไร่ อยู่ใกล้แหล่งน้ำสาธารณะที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลนานนับปี ติดถนนซอยตรีเพชรข้างโรงงาน ทีเอ็นเอส หมู่ 1 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ส่งกลิ่นเหม็นแก๊สไข่เน่าจนแสบตา จมูก วิงเวียนศีรษะ ที่ผ่านมา ชาวบ้านกว่า 200 คนเข้าชื่อร้องเรียนนายอำเภอ แต่เรื่องกลับเงียบหาย ชาวบ้านจึงเกิดอาการเครียด เวลามีฝนตกลงมาบริเวณพื้นที่ฝังกลบขยะพิษจะมีไอจากสารเคมีลอยเป็นกลุ่มควันสีขาวฟุ้งกระจายส่งกลิ่นเหม็นในระยะไกล
ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายอำเภอปลวกแดงพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มาบยางพร และชาวบ้านเดินทางไปดูบริเวณพื้นที่ฝังกลบขยะสารเคมีได้สูดดมกลิ่นจากสารเคมี ทำให้นายอำเภอถึงกับหน้าซีดร้องหายาดมคล้ายจะเป็นลม และรีบเดินทางกลับ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด จากการลงพื้นที่ไปดูที่ทิ้งขยะสารเคมีปรากฏว่า มีการฝังกลบขยะสารเคมีปรับสภาพหน้าดินเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงมีกลิ่นเหม็นเหมือนแก๊สไข่เน่ารบกวนชาวบ้านเป็นบางเวลา
ชาวบ้านคนเดียวกันกล่าวต่อไปอีกว่า ขณะที่รถบรรทุกพ่วงขนขยะสารเคมีมาทิ้งในช่วงเวลาเย็นจะมองเห็นเป็นสีขาวคล้ายหมอกปกคลุมบริเวณพื้นที่ฝังกลบ มีรถบรรทุกขนขยะสารเคมีมาทิ้งในบ่อฝังกลบแห่งนี้มานานนับปี โดยที่ชาวบ้านไม่รู้เลยว่าขยะสารเคมีจากโรงงานที่ขนมาทิ้งมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อชาวบ้านชนิดใดบ้าง และไม่ทราบว่าขยะสารเคมีที่ขนมาทิ้งมีจำนวนเท่าไหร่แต่คิดว่ามีจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นมาตลอด ร้องเรียนเรื่องก็เงียบหายไม่รู้จะไปพึ่งใครให้เข้ามาช่วยเหลือ
“อยากให้ขุดเอาขยะสารเคมีขึ้นมาจากบ่อทั้งหมดนำออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว เพราะชาวบ้านหวั่นวิตกเมื่อนานเข้าหลายปีน้ำในบ่อขยะสารเคมีอาจรั่วไหลลงอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลที่อยู่ไม่ไกลนัก และหวั่นน้ำขยะสารเคมีซึมลงบ่อน้ำตื้นของชาวบ้าน เหมือนกรณีอย่างเช่นมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ขณะเดียวกัน ได้สอบถามชาวบ้านร้านค้าในตลาดปลวกแดง ต่างยืนยันว่า มีกลิ่นเหม็นคล้ายแก๊สไข่เน่าเป็นบางเวลา”
