ฉาวโฉ่ ! ตร.ศรีสะเกษจับ ตร.อุบลฯ ควงอาวุธสงครามขนไม้เถื่อนอื้อ

ศรีสะเกษ - ฉาวโฉ่ ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ แถลงข่าว จับ ตร.อุบลฯ ควงอาวุธสงครามขนไม้ประดู่เถื่อนอื้อ 178 แผ่น/เหลี่ยม ขณะ สภ.โดนเอาว์ และ สภ.กันทรอม รวบอีก 5 ราย ได้ของกลางทั้งไม้ประดู่-พะยูงอีกเพียบ รวมทั้งหมดกว่า 200 ท่อน/เหลี่ยม มูลค่าส่งออกต่างประเทศ 20 ล้าน

วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมการลักลอบขนไม้พะยูง และไม้ประดู่ ซึ่งตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ได้ร่วมกันจับกุม ด.ต.ประเสริฐ วิจิตขากี่ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.9 ต.นาเกษม อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี ตำรวจสังกัด สภ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี และนายธวัช คำเลิศ อายุ 40 ปี นายบัวไล เกิงเกษ อายุ 48 ปี โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนสายกันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ม.1 ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

พร้อมด้วยของกลาง ปืนเอชเค 33 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 17 นัด ไม้ประดู่ จำนวน 178 แผ่น/เหลี่ยม บรรทุกมาในรถตู้หมายเลขทะเบียน นข 1189 อุบลราชธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันมีไม้แปรรูป (ไม้ประดู่) ไว้ในครอบครองเกินกว่า 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ตำรวจ สภ.โดนเอาว์ และ สภ.กันทรอม ได้จับกุมแก๊งลักลอบขนไม้พะยูง และไม้ประดู่เถื่อน รวมจำนวน 31 ท่อน/เหลี่ยม ได้ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย 1.นายชาญ เนียมกลิ่น อายุ 44 ปี 2.นายพรชัย หนองหว้า อายุ 27 ปี 3.นายเขมนัส ภูมิพันธ์ อายุ 19 ปี 4.นายทวีพันธ์ บุตรภักดี อายุ 27 ปี และ 5.นางศิริมา สุรัดชัย อายุ 30 ปี พร้อมตรวจยึดรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผม 2188 นครราชสีมา จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงิน จำนวน 70,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ นายทวีพันธ์ และนางศิริมา นำมาใช้เพื่อติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวนายพรชัย และนายเขมนัส แต่ถูกเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ไม้พะยูง และไม้ประดู่ของกลางทั้งหมดข้างต้น หากส่งขายต่างประเทศได้จะมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาว่า “ร่วมกันทำไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) และไม้ประดู่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป