สุรินทร์- เจ้าหน้าที่ ตม.ไทยร่วมตำรวจ สภ.กาบเชิง บุกช่วยเหลือแรงงานเขมรลอบเข้าเมืองถูกแก๊งค้าแรงงานชาติเดียวกันกักขังอยู่ในห้องแถว ภายในตลาดชายแดนช่องจอม รอส่งไปขายแรงงานที่ภาคใต้ของไทย รอง ผบก.สุรินทร์ รุดสอบปากคำ หวั่นเป็นแก๊งค้ามนุษย์รายใหญ่ส่งชายแดนใต้ และมาเลเซีย
ช่วงเย็นวันนี้ (18 ก.พ.) ที่บริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ.ต.ท.ชัชชัย สำเนียง สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ได้รับแจ้งจากประชาชนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณห้องแถวล้อมด้วยสังกะสี ภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ว่า ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงชาวกัมพูชาจำนวนหลายคน ดังออกมากจากภายในห้องแถวสังกะสี โดยมีชายชาวกัมพูชา 2 คน ค่อยยืนคุ้มกันอยู่ด้านหน้าห้อง
หลังได้รับแจ้งได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง นายคง ติน หัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด ต.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ซึ่งอยู่ติดกับด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องจอม และประสาน พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีระโชติ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.กาบเชิง ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง รุดไปตรวจสอบห้องแถวสังกะสีภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมดังกล่าว โดยใช้ไม้งัดประตูสังกะสีเข้าไปพบชาวกัมพูชา จำนวน 7 คน เป็นหญิง 5 คน ชาย 2 คน ถูกกักขังอยู่ภายในห้องด้วยใบหน้าอิดโรย และอยู่กันอย่างแออัด
จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชาเดินทางมาจาก จ.เสียมราฐ โดยมีนายหน้าชาวกัมพูชาเป็นผู้นำทางมา และเสียค่าใช้จ่ายลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย รายละ 3,000 บาท โดยนายหน้าชาวกัมพูชาบอกว่า จะนำไปขายแรงงานที่ภาคใต้ของประเทศไทย แต่ไม่บอกว่าที่ไหน และถูกกักขังทรมานอยู่ที่ห้องแถวแห่งนี้ ไม่กินข้าวกินน้ำมา 2 วันแล้ว
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายชก ห้า กับ นายกึม ชาน ชาวกัมพูชา ที่ทำหน้าที่ดูแลต้นทาง และเฝ้าหน้าห้องที่กักขังชาวกัมพูชาทั้ง 7 คนไว้ได้ ซึ่งทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า ได้ค่าจ้างในการคุมห้องแถวคนละ 200 บาท ส่วนคนสั่งการอยู่ในฝั่งประเทศกัมพูชา
ขณะที่ พ.ต.อ.พรเทพ เพชรคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) สุรินทร์ ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำชาวกัมพูชาทั้ง 7 คน ที่ถูกหลอกลวงไปขายแรงงานด้วยตนเอง และกำชับพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้ต้องหาชาวกัมพูชา 2 คน ที่ทำหน้าที่เฝ้าหน้าห้องกักขังแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาอย่างละเอียด เพื่อเชื่อมโยงการค้าแรงงานต่างด้าว หรือการค้ามนุษย์ และให้เน้นการสอบขยายผลการส่งแรงงานชาวกัมพูชาไปทำงานที่ภาคใต้ของไทยว่า ไปยังจังหวัดใด เป็นการส่งผ่านแรงงานชาวกัมพูชาไปยังประเทศมาเลเซียหรือไม่อย่างไร
จากข้อมูลการสอบปากชายชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า จะส่งแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดนี้ไปยังจังหวัดในภาคใต้ เพื่อทำงานรับจ้างกรีดยางพารา ส่วนค่าแรงยังไม่ทราบว่าจะได้เท่าไร และระหว่างเดินทางมายังประเทศไทยได้เรียกค่าหัวแรงงานชาวกัมพูชาคนละ 3,000 บาท บางคนได้จ่ายไปแล้ว บางคนยังไม่จ่ายโดยให้ไปหักกับค่าจ้างแรงงานที่ทำ และบางคนบอกว่า นายหน้าจะส่งไปขายแรงงานที่ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง จะสอบปากคำแรงงานชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองทั้ง 7 คน และผู้ต้องหาชายชาวกัมพูชาอีก 2 คน เพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายคง ติน หัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด ได้ประสานกับตำรวจจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา เพื่อจับกุมขบวนการค้าแรงงานผิดกฎหมาย ในประเทศกัมพูชาต่อไป
