สุโขทัย - ภัยแล้งลุกลามทั่วจังหวัดสุโขทัย เฉพาะ “ศรีสัชนาลัย” เจอหนักสุด คลองสายหลักแห้งขอด จนไม่มีน้ำผลิตประปามานานกว่า 2 เดือน พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบกว่า 2 หมื่นไร่ ชาวบ้านบอกไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในรอบ 60-80 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุโขทัย วันนี้ (18 ก.พ. 56) ว่าสถานการณ์ภัยแล้งยังคงลุกลามหนักในหลายพื้นที่ของสุโขทัย โดยเฉพาะที่ ต.สารจิตร และ ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย ล่าสุดพบมีพื้นที่การเกษตรรวมกว่า 20,000 ไร่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะไม่มีน้ำทำนาปรัง และยังขาดแคลนน้ำสำหรับใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านมานานกว่า 2 เดือนแล้ว
นายธนกฤต ท้าวบุญยืน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.สารจิตร เปิดเผยว่า น้ำในคลองแม่ท่าแพ ที่เป็นคลองสายหลักไหลผ่าน ต.บ้านแก่ง ต.สารจิตร แห้งขอดจนไม่เหลือน้ำไว้ผลิตประปาหมู่บ้านมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ทำให้ชาวบ้านต้องซื้อน้ำมาไว้ดื่มกิน และทางอำเภอศรีสัชนาลัย กับ อบต.ในพื้นที่ต้องนำถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่มาตั้งตามจุดต่างๆ แล้วขนน้ำจากที่อื่นมาช่วยเหลือทุกวัน
นางทองดี มนเฑียร อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ภัยแล้งกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเห็นว่าน้ำในคลองแม่ท่าแพจะแห้งขอดจนไม่เหลือใช้ทำน้ำประปาหมู่บ้าน และนาข้าวกว่า 20,000 ไร่ขาดน้ำทำนาแบบนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เจอภัยแล้งหนักที่สุด ถึงขนาดต้องหยุดทำนาปรังกันในปีนี้ ส่วนคลองยายโท บริเวณหมู่ 1 หมู่ 9 ต.สารจิตร ทุกปีเคยมีน้ำให้ทำนาได้ แต่ปีนี้กลับแห้งขอดไม่มีน้ำสักหยด
“วิกฤตภัยแล้งปีนี้นับว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบ 60-80 ปีเลยทีเดียว ผู้สูงอายุต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่เคยขาดแคลนน้ำทำนา และในคลองแม่ท่าแพจะมีน้ำเพียงพอ สำหรับใช้ผลิตประปาทุกปี ยกเว้นปีนี้”
นอกจากนี้ ที่หนองจระเข้ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 1,300 ไร่ และเคยมีน้ำสำหรับหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรถึง 3 อำเภอ คือ ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม และสวรรคโลก ปีนี้พบว่า ระดับน้ำลดลงอย่างน่าตกใจถึง 3 เมตร จนมองเห็นเกาะกลางน้ำ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อำเภอศรีสัชนาลัย และ อบต.ในพื้นที่ได้เร่งขุดลอกคูคลองสนับสนุนงบประมาณ และให้การช่วยเหลือราษฎรเบื้องต้นแล้ว ขณะที่ทางกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พร้อมชาวบ้านกว่า 50 คนได้ร่วมมือกันนำรถแทรกเตอร์พร้อมจอบมาขุดและไถปรับพื้นดินที่เป็นเนินสูงใต้สะพานคลองแม่ท่าแพ ตรงหมู่ 9 ต.สารจิตร เพื่อเตรียมกักเก็บน้ำบรรเทาปัญหาภัยแล้งต่อไป
ทั้งนี้ จังหวัดสุโขทัยได้ประกาศให้ทั้ง 9 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว ล่าสุดพบมีราษฎรเดือดร้อน 78 ตำบล 605 หมู่บ้าน175,638 คน 50,991 ครัวเรือน รวมทั้งมีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบอีกกว่า 800,000 ไร่ และคาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาภัยแล้งครั้งนี้ยังส่งผลให้ชาวนาบางพื้นที่เกิดการแย่งชิงน้ำ กลั่นแกล้งกันด้วยการขโมยเครื่องสูบน้ำ หรือไม่ก็แอบมาปิดเครื่อง ทำให้หลายคนต้องพกพาอาวุธปืนมาคอยเฝ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง หรือโดนขโมยเครื่องสูบน้ำไป