เด็กเมืองช้างรวมกลุ่มล่า “ปิงกูย” หน้าแล้ง-ผัดเผ็ดแซบ ลดภาระผู้ปกครอง

สุรินทร์ - หน้าแล้งเมืองช้าง เด็กเยาวชนบ้านสองสะโกม อ.ปราสาท รวมกลุ่มควบ จยย.ควงหนังสติ๊กออกล่า “ปิงกูย” หรือ “กิ้งก่า” นำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานร่วมกัน ช่วยลดภาระผู้ปกครองและใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ห่างไกลยาเสพติด เผย “ผัดเผ็ดปิงกูย” เมนูแซบเวอร์

วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฤดูแล้งปีนี้แทบทุกพื้นที่ของ จ.สุรินทร์ ต่างประสบปัญหาภัยแล้งกันถ้วนหน้าประชาชนเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร หลายครอบครัวต้องอพยพแรงงานไปทำงานต่างถิ่นในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่ชาวบ้านบางส่วนยังอยู่ในภูมิลำเนาดิ้นรนหารายได้จากอาชีพเสริมและออกหาเก็บของป่า ขุดปู กบ เขียดในทุ่งนาและหาจับปลาตามแหล่งน้ำที่แห้งขอดมาประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัวให้ผ่านพ้นหน้าแล้งปีนี้

ขณะที่บรรดากลุ่มเด็กเยาวชน บ้านสองสะโกม ม.5 ต.ไพร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้รวมตัวกันกว่า 10 คน ขับขี่จักรยานยนต์พร้อมหนังสติ๊กคู่ชีพออกตระเวนล่า “กิ้งก่า” ที่เกาะอยู่ตามริมรั้วข้างทาง และต้นไม้ในป่าละเมาะหรือป่าชุมชนตามหัวไร่ปลายนา มาประกอบอาหารรับประทานร่วมกัน ซึ่งกิ้งก่านั้นภาษาอีสานเรียกว่า “กะปอม” ส่วนเด็กๆ ชาวสุรินทร์ที่พูดภาษาท้องถิ่นเขมรเรียกว่า “ปิงกูย”

ทั้งนี้ กิ้งก่าที่ช่วยกันล่าไล่จับและใช้หนังสติ๊กยิงมาได้แต่ละวันจะนำมารวมกันเป็นกองกลางก่อนชำแหละล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาผัดเผ็ดปรุงเป็นอาหารรับประทานกับข้าวร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อย

ส่วนที่เหลือก็แบ่งแจกจ่ายกันนำกลับไปฝากผู้ปกครองประกอบอาหารรับประทานในครอบครัว ซึ่งนับเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลจากยาเสพติด สร้างความรักสามัคคีในหมู่เยาวชน และลดภาระให้ผู้ปกครองอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่นับวันยิ่งหาดูได้ยากในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่นชนบทยุคสมัยนี้ที่ถูกครอบงำด้วยสินค้าไอทีไม่แตกต่างจากเยาวชนในเมืองใหญ่

นายวีระพงษ์ ต้องที่ดี อายุ 17 ปี หนึ่งในเยาวชนกลุ่มล่ากิ้งก่า บ้านสองสะโกม ม.5 ต.ไพร อ.ปราสาท กล่าวว่า เวลาว่างหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์พวกตนมักรวมตัวกันออกล่าปิงกูย หรือกิ้งก่าเป็นประจำ เพื่อนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งไม่มีงานทำจึงใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ส่วนเมนูที่ชื่นชอบ คือ “ผัดเผ็ดปิงกูย” เพราะมีรสชาติจัดเผ็ดหอมมันอร่อยมาก