ระยอง - แฉการเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนเมืองมาบตาพุด 38 ชุมชนสุดคึกคัก ท่ามกลางกระแสซื้อเสียงหัวละ 1,000-1,500 ต่ำสุด 300 บาท เผยการเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนครั้งนี้มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนครั้งใหญ่ รวมทั้งสิ้น 38 ชุมชน หลังคณะกรรมการชุมชนชุดเก่าได้หมดวาระลงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยแบ่งจำนวนคณะกรรมการชุมชนที่จะมีการเลือกตั้งชุมชนละ 9 คน มีชุมชนที่มีผู้สมัครรวม 9 คน ไม่ต้องมีการเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 8 ชุมชน และต้องมีการเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 30 ชุมชน จำนวนผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 616 คน
หลังมีการเปิดหีบมีชาวบ้านแห่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนแต่ละชุมชนช่วงเช้าบรรยากาศเป็นคึกคัก ต้องเข้าแถวยาวเหยียด
โดยเฉพาะชุมชนที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นที่ได้รับผลกระทบมลพิษสิ่งแวดล้อมจากโรงงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก ฯ เป็นประจำ ชาวบ้านให้ความสนใจรีบเดินทางมาลงคะแนนกันเนืองแน่น
แหล่งข่าวจากชาวบ้านเผยว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากชุมชนที่อยู่ใกล้นิคมฯ และรับผลกรทบสิ่งแวดล้อมจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้ารัศมี 5 กิโลเมตร ปีละเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาทในแต่ละชุมชน และโดยเฉพาะโรงงานที่เกิดปัญหาเรื่องมลพิษ รวมทั้งโรงงานปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา จะมีการพาคณะกรรมการชุมชนไปเที่ยวต่างประเทศ
และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีผู้สมัครรับการเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการชุมชนจำนวนมาก บางชุมชนต้องแข่งขันกันถึง 3 ทีม ทำให้มีการแข่งขันสูง มีการซื้อเสียงขั้นต่ำหัวละ 300 บาท 1,000-1,500 บาท เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูหน่วยเลือกตั้งชุมชนห้วยโป่ง 2 มีผู้สมัครแข่งขันรวม 2 ทีม 18 คน มีจำนวนประชากรที่มีสิทธิลงคะแนนจำนวน 1,300 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เปิดเผยว่า มีผู้มาใช้สิทธิตั้งแต่เช้า ต้องเข้าคิวยาวจนถึงเที่ยงวันก็ยังมีผู้มาใช้สิทธิกันอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้มาใช้สิทธิรายหนึ่ง บอกว่า ชุมชนห้วยโป่ง 2 อยู่ใกล้โรงงานได้รับผลกระทบมลพิษจากโรงงานอยู่เสมอ และยอมรับว่า การเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชุดใหม่ โดยครั้งนี้มีการแข่งขันสูง และมีกระแสได้ข่าวว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 1,000-1,500 บาท อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
ส่วนที่หน่วยเลือกตั้งชุมชนหนองแฟบ มีผู้สมัครรวม 3 ทีม รวม 27 คน อิสระ 1 คน โดยชุมชนนี้มีกระแสข่าวออกมากล่าวอ้างว่า ชาวบ้านจะยอมขายที่ดินยกชุมชนทั้งหมดกว่า 3 พันไร่ เป็นจำนวนเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ขายให้โรงงานบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศทำเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เปิดเผยว่า มีการทุ่มซื้อเสียงอย่างหนักไม่แพ้ชุมชนห้วยโป่ง 2 และที่น่าจับตาอีกแห่งคือ ชุมชนซอยร่วมพัฒนา มีจำนวนประชากร 1,900 คน เป็นชุมชนหนาแน่น และอยู่ใต้ทิศทางลมโรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และเป็นชุมชนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษสิ่งแวดล้อมจากโรงงานอุตสาหกรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้สมัครบางคนในหลายชุมชนล้วนเป็นนักธุรกิจที่จะเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการชุมชนเพื่อหวังผลประโยชน์ในด้านธุรกิจกับโรงงาน จึงต้องยอมทุ่มเงินเพื่อให้ได้เป็นประธานคณะกรรมการชุมชน
ผู้สมัครประธานคณะกรรมการชุมชนรายหนึ่ง กล่าวว่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ บริษัทยักษ์ใหญ่เตรียมปิดสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองระยอง เพื่อจัดงานเลี้ยงให้แก่ประธาน และกรรมการชุมชนชุดเก่าทั้งหมด หลังผลการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานชุมชนชุดใหม่ทั้ง 38 ชุมชน บริษัทยักษ์ใหญ่รายเดียวกันจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้อย่างเต็มที่
