พระนครศรีอยุธยา - ผบช.ภาค 1 ลงพื้นที่กรุงเก่า เร่งล่า 2 โจรขโมยควายพระราชทานที่วัดโตนดเตี้ย พระนครศรีอยุธยา พร้อมตั้งรางวัลนำจับคนขโมยควาย 50,000 บาท สั่งประสานโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ทั้ง 9 จังหวัด รวมทั้งตลาดนัดวัวควายในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน มั่นใจจะได้ตัวคนร้าย และควายกลับคืน ลั่นคดีนี้ต้องจบโดยเร็ว
จากกรณีคนร้าย 2 คน ใช้รถยนต์กระบะนิสสันสีขาวไปลักควายเพศผู้ชื่อคล้าว และเพศเมีย ชื่อทองกราว อายุ 5 ปี ของวัดโตนดเตี้ย หมู่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดที่กลางทุ่งหญ้าห่างจากวัดประมาณ 500 เมตร ซึ่งควายทั้ง 2 ตัวเป็นควายที่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ประทานให้ทางวัดเลี้ยงดูเมื่อปี พ.ศ.2551 โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ที่วัดโตนดเตี้ย หมู่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช ภ.1) พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 และตำรวจ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภออุทัย พระครูเกษมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย ได้ร่วมกันประชุมถึงความคืบหน้าของการติดตามคนร้ายที่ขโมยควายทั้ง 2 ตัวไป
พล.ต.ท.นเรศ เปิดเผยว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร หลังจากมีการสอบสวนพยานแวดล้อม ทำให้ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสเกตช์ภาพของคนร้ายได้แล้ว 1 คน และทางพนักงานสอบสวน สภ.อุทัยได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด จนสามารถออกหมายจับคนร้ายได้แล้ว 1 คน หมายจับเลขที่ จ.118/56 เมื่อวันที่ 15 ก.พ.56 ให้จับกุมบุคคลไม่ทราบชื่อปรากฏตามภาพสเกตช์ ในข้อหาร่วมกันกระทำความความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลักทรัพย์ที่เป็นของผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรรม โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้แล้ว ซึ่งเฉพาะพยานหลายปากยืนยันตรงกันว่า พบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหลังทำเป็นคอกเหล็กบรรทุกควายที่ส่งเสียงร้องเรียกหาลูกตลอดเวลา” พล.ต.ท.นเรศ กล่าว
พล.ต.ท.นเรศ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบควายที่อยู่ในวัดพบว่า ยังมีควายเหลืออยู่อีก 8 ตัว พบว่า ควายเพศเมียชื่อปิ่นอนงค์ อายุประมาณ 1 ปี เป็นลูกควายคล้าว และทองกราว ส่งเสียงร้องโหยหวนเดินวนเวียนเพื่อหาแม่ ซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง เห็นแล้วรู้สึกสะเทือนใจที่ลูกจะต้องพรากจากแม่ โดยเฉพาะมาพรากจากกันในวันแห่งความรัก
“อยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่พบเบาะแสลักษณะของควายให้รีบแจ้งมาที่ พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ตลอดเวลา และขณะนี้เราได้ตั้งรางวัลนำจับผู้ที่สามารถชี้เบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้เป็นเงิน จำนวน 50,000 บาท นอกจากนี้ ผมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ทั้ง 9 จังหวัด รวมทั้งตลาดนัดวัวควายในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานด้วย มั่นใจว่าจะได้ตัวคนร้าย และควายกลับคืนมา เชื่อว่าควายยังมีชีวิตอยู่ คดีนี้ต้องจบโดยเร็ว” พล.ต.ท.นเรศ กล่าว
นายสมพร คงเจริญ อายุ 50 ปี ผู้ที่ดูแลเลี้ยงควายทั้ง 2 ตัวอยู่ในปัจจุบัน เปิดเผยว่า ควายคล้าว กับทองกราว ได้ถูกนำมาไว้ที่วัดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.51 ปัจจุบัน ควายทั้ง 2 ตัวเจริญเติบโตเต็มที่ รูปร่างสูงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัมขึ้นไป เป็นควายที่ไม่เคยเจ็บป่วย เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ ตกลูกมาแล้วถึง 6 ตัว
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
1.2 โจรกรุงเก่าเหิมลักควายพระราชทานวัดดังอยุธยา