ร้อยเอ็ด - ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ดทำโครงการนัดไกล่เกลี่ยหนี้สินเกษตกร มุ่งเน้นลูกหนี้รายใหญ่ ลดปริมาณคดีฟ้องร้องในศาล ประหยัดค่าใช้จ่าย
วันนี้ (13 ก.พ. 56) ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์ หน้าศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร้อยเอ็ด ซึ่งมีสาขาทั้งหมด 16 สาขา ใน 16 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดจัดกิจกรรมนัดไกล่เกลี่ยหนี้สินเกษตกร โดยมีเกษตรกรลูกหนี้รายใหญ่ 140 รายจากทั้ง 20 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ค้างเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลานาน ให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกหนี้ ให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องร้อง
นายวุฒิชัย ข่าขันมะลี ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ 140 รายจากทั้ง 16 สาขาล้วนเป็นลูกหนี้รายใหญ่ รวมแล้วเป็นหนี้สินคงค้างที่มีปัญหาด้านการทวงถามและชำระหนี้ รวมเป็นเงินต้นค้างชำระ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งนัดเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ต้องการฟ้องร้องคดี โดยมีศาลเป็นสื่อกลางให้เกษตรกรเห็นถึงความตั้งใจที่จะเจรจาประนอมหนี้มากกว่าการฟ้องร้องเป็นคดีความ
ทั้งนี้ มีข้อเสนอ 3 ทางเลือกให้เกษตรกรใช้เป็นทางเลือก คือ 1. การเปิดโอกาสให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แขวนดอกเบี้ยคิดเฉพาะเงินต้นให้แบ่งงวดผ่อนชำระภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี 2. ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระ ไม่เกิน 5 แสนบาท สามารถชำระหนี้ได้ภายในเดือน มิ.ย. จะผ่อนผันลดดอกเบี้ยลงให้ร้อยละ 50 หากชำระปิดบัญชี
3. สำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้สินเกินกว่า 5 แสนบาท สามารถขอเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้กับทาง ธ.ก.ส.ได้อีกด้วย ซึ่งการดำเนินการเจรจากับลูกค้าที่เป็นหนี้เวลานาน ยากแก่การติดตามทั้งหมดนี้ เมื่อเข้ามาสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยในโครงการที่มีศาลเป็นส่วนร่วม จะส่งผลให้กระบวนการเจรจาพูดคุยสามารถทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น และไม่เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความเกิดขึ้น
ด้านนายธัญญา เอื้ออารีวรกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวนับเป็นนิมิตรหมายที่ดี ในการพูดคุย นอกจากเพื่อลดปริมาณคดีในศาลแล้ว ยังส่งผลให้ประหยัด ลดค่าใช้จ่าย ส่งผลต่อภาพรวมตามแนวทางสันติสุขลดความขัดแย้ง เกษตรกรได้ประโยชน์ และขยายช่องทางผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้เกษตรกร โดยมีศาลเป็นสื่อกลางนำไปสู่การเจรจาหาทางออกที่ดี ไม่ว่าเกษตรกรที่มีความพร้อม หรือที่ขัดข้อง ไม่พร้อมจะได้มาร่วมเจรจาเพื่อหาทางออกที่ดี โดยมีศาลเป็นสื่อกลางและเป็นฝ่ายดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยให้
วันนี้ (13 ก.พ. 56) ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์ หน้าศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร้อยเอ็ด ซึ่งมีสาขาทั้งหมด 16 สาขา ใน 16 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดจัดกิจกรรมนัดไกล่เกลี่ยหนี้สินเกษตกร โดยมีเกษตรกรลูกหนี้รายใหญ่ 140 รายจากทั้ง 20 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ค้างเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลานาน ให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกหนี้ ให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องร้อง
นายวุฒิชัย ข่าขันมะลี ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ 140 รายจากทั้ง 16 สาขาล้วนเป็นลูกหนี้รายใหญ่ รวมแล้วเป็นหนี้สินคงค้างที่มีปัญหาด้านการทวงถามและชำระหนี้ รวมเป็นเงินต้นค้างชำระ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งนัดเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ต้องการฟ้องร้องคดี โดยมีศาลเป็นสื่อกลางให้เกษตรกรเห็นถึงความตั้งใจที่จะเจรจาประนอมหนี้มากกว่าการฟ้องร้องเป็นคดีความ
ทั้งนี้ มีข้อเสนอ 3 ทางเลือกให้เกษตรกรใช้เป็นทางเลือก คือ 1. การเปิดโอกาสให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แขวนดอกเบี้ยคิดเฉพาะเงินต้นให้แบ่งงวดผ่อนชำระภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี 2. ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระ ไม่เกิน 5 แสนบาท สามารถชำระหนี้ได้ภายในเดือน มิ.ย. จะผ่อนผันลดดอกเบี้ยลงให้ร้อยละ 50 หากชำระปิดบัญชี
3. สำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้สินเกินกว่า 5 แสนบาท สามารถขอเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้กับทาง ธ.ก.ส.ได้อีกด้วย ซึ่งการดำเนินการเจรจากับลูกค้าที่เป็นหนี้เวลานาน ยากแก่การติดตามทั้งหมดนี้ เมื่อเข้ามาสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยในโครงการที่มีศาลเป็นส่วนร่วม จะส่งผลให้กระบวนการเจรจาพูดคุยสามารถทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น และไม่เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความเกิดขึ้น
ด้านนายธัญญา เอื้ออารีวรกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวนับเป็นนิมิตรหมายที่ดี ในการพูดคุย นอกจากเพื่อลดปริมาณคดีในศาลแล้ว ยังส่งผลให้ประหยัด ลดค่าใช้จ่าย ส่งผลต่อภาพรวมตามแนวทางสันติสุขลดความขัดแย้ง เกษตรกรได้ประโยชน์ และขยายช่องทางผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้เกษตรกร โดยมีศาลเป็นสื่อกลางนำไปสู่การเจรจาหาทางออกที่ดี ไม่ว่าเกษตรกรที่มีความพร้อม หรือที่ขัดข้อง ไม่พร้อมจะได้มาร่วมเจรจาเพื่อหาทางออกที่ดี โดยมีศาลเป็นสื่อกลางและเป็นฝ่ายดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยให้
