ศูนย์ข่าวศรีราชา - พนักงานบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าซิ่งกระบะแหกโค้งเหินข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนประสานงาเก๋ง ทำโชเฟอร์หนุ่มใหญ่ดับรับตรุษจีน ส่วนสาวที่นั่งด้วยบาดเจ็บสาหัสติดคาซาก ตำรวจเร่งหาสาเหตุ หากพบคนขับกระบะคู่กรณีเมาสุรา เตรียมลงดาบฐานเมาแล้วขับ
เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (9 ก.พ.) พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศิริมาก พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะพุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนประสานงากับรถเก๋ง จนเป็นหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท กม.182/100 เส้นทาง กม.10-สัตหีบ บริเวณหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร โค้งกิโลเมตรที่ 6 หมู่ 6 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กฉ 7630 ระยอง สภาพหน้ารถพังยับเยิน หลังคาด้านบนหลุดออกจากตัวรถ ที่เบาะคู่หน้าพบคนขับเป็นชาย (ไม่ทราบชื่อสกุล) วัยกลางคนเสียชีวิตคาที่ ใกล้กันพบ นางเบญจวรรณ อุดม อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้งคู่ถูกคอนโซลหน้ารถบีบอัดติดกับซากรถ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดร่างออกมาอย่างทุลักทุเล
จากการตรวจสอบภายในรถพบเอกสารระบุชื่อเจ้าของคือ นายฤทธิ์ จุลกะ พักบ้านเลขที่ 103/34 ม.6 ตำบลพลูตาหลวง ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียน กค8620 สระแก้ว สภาพพลิกตะแคงข้าง ตัวรถพังยับเยิน โดยมีผู้โดยสารมากับรถ 3 คน กระเด็นไปคนละทิศละทางได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อคือ นายภูกฤษ ศิริทัยสอน อายุ 31 ปี คนขับ นายถนัด อุ่นใจ อายุ 32 ปี และนายสมโภช ขาสันเทียะ อายุ 25 ปี ทั้งหมดเป็นพนักงานบริษัท ฟิชเชอร์แอนด์พายเคิล แอพพลายแอสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า
เบื้องต้น ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวหามส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
ด้าน พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศิริมาก พนักงานสอบสวนกล่าวว่า รถกระบะของพนักงานบริษัทได้วิ่งออกมาจากงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ที่ทางบริษัทจัดขึ้นที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โดยหลังงานเลิกทั้งหมดได้พากันกลับบ้านพักที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง คาดว่าคนขับอาจมีอาการหลับใน หรือเมาสุราจึงซิ่งแหกโค้งเหินข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนประสานงากับรถเก๋งของผู้ตาย
ในเบื้องต้น หากตรวจพบคนขับรถกระบะเมาสุรา จะดำเนินคดีตามกฎมายฐานเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (9 ก.พ.) พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศิริมาก พนักงานสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะพุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนประสานงากับรถเก๋ง จนเป็นหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท กม.182/100 เส้นทาง กม.10-สัตหีบ บริเวณหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร โค้งกิโลเมตรที่ 6 หมู่ 6 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กฉ 7630 ระยอง สภาพหน้ารถพังยับเยิน หลังคาด้านบนหลุดออกจากตัวรถ ที่เบาะคู่หน้าพบคนขับเป็นชาย (ไม่ทราบชื่อสกุล) วัยกลางคนเสียชีวิตคาที่ ใกล้กันพบ นางเบญจวรรณ อุดม อายุ 39 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้งคู่ถูกคอนโซลหน้ารถบีบอัดติดกับซากรถ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดร่างออกมาอย่างทุลักทุเล
จากการตรวจสอบภายในรถพบเอกสารระบุชื่อเจ้าของคือ นายฤทธิ์ จุลกะ พักบ้านเลขที่ 103/34 ม.6 ตำบลพลูตาหลวง ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียน กค8620 สระแก้ว สภาพพลิกตะแคงข้าง ตัวรถพังยับเยิน โดยมีผู้โดยสารมากับรถ 3 คน กระเด็นไปคนละทิศละทางได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อคือ นายภูกฤษ ศิริทัยสอน อายุ 31 ปี คนขับ นายถนัด อุ่นใจ อายุ 32 ปี และนายสมโภช ขาสันเทียะ อายุ 25 ปี ทั้งหมดเป็นพนักงานบริษัท ฟิชเชอร์แอนด์พายเคิล แอพพลายแอสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า
เบื้องต้น ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวหามส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
ด้าน พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศิริมาก พนักงานสอบสวนกล่าวว่า รถกระบะของพนักงานบริษัทได้วิ่งออกมาจากงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ที่ทางบริษัทจัดขึ้นที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โดยหลังงานเลิกทั้งหมดได้พากันกลับบ้านพักที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง คาดว่าคนขับอาจมีอาการหลับใน หรือเมาสุราจึงซิ่งแหกโค้งเหินข้ามเกาะกลางถนนพุ่งชนประสานงากับรถเก๋งของผู้ตาย
ในเบื้องต้น หากตรวจพบคนขับรถกระบะเมาสุรา จะดำเนินคดีตามกฎมายฐานเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บ