สระแก้วตั้งกรรมการตรวจสอบสินค้ามือสองป้องกันปัญหาในอนาคต

สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว กำหนดแนวทางแก้ไขสินค้ามือสอง ตั้งกรรมการตรวจสอบ พร้อมเร่งหน่วยงานในพื้นที่แก้ปัญหา และหาแนวทางสกัดกั้นปัญหารองเท้ามือสองเข้าไทยในอนาคต

วันนี้(6 ก.พ.56) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เป็นประธานแก้ไขปัญหาขยะรองเท้ามือสอง ณ ห้องประชุมดอกแก้ว ศาลากลางชั้น 2 โดยมีนายพุฒิพงศ์ สุรพฤกษ์ ผอ.ทสจ.สระแก้ว นำหัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประกอบการ รองเท้ามือสอง ทั้งของตลาดเดชไทยและตลาดอื่นๆ ที่มีการนำรองเท้ามือสองมาคัดแยก ในตลาดโรงเกลือ เข้าประชุมหาหรือ

หลังจาก เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2556 กรมควบคุมมลพิษ ได้นำน้ำในบ่อขยะรองเท้า ของตลาดเดชไทไปตรวจปรากฏว่า น้ำในบ่อขยะรองเท้ามีสารแมงกานีส และสารโครเมียมอยู่ในน้ำปริมาณเกินค่าที่กำหนดไว้

สารที่ตกค้างดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวได้ และภายในบ่อมีปลาอาศัยอยู่ เกรงว่าสารดังกล่าวจะปนเปื้อนเข้าไปในตัวปลาเกิดชาวบ้านจับปลาไปรับประทาน จะเป็นอันตรายต่อชาวบ้านได้

นอกจากปัญหาบ่อขยะรองเท้าแล้ว ในที่ประชุมยังหวั่นวิตก เกี่ยวกับปัญหาน้ำที่ซักฟอกรองเท้าซึ่งกลายเป็นน้ำเสีย แล้วเททิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้ ทำให้สารเหล่านี้กระจายไปตามแหล่งน้ำต่างๆได้ กลายเป็นปัญหาในวงกว้าง

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาในระยะยาว จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบสินค้ามือสอง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า กระเป๋าและเสื้อผ้ามือสอง ที่นำเข้ามาคัดแยกภายในตลาดโรงเกลืออย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ประกอบการร่วมมือแก้ไขกันอย่างจริงจัง

ส่วนที่กองขยะรองเท้ามือสองของตลาดเดชไท วันนี้ไม่มีรองเท้ามือสองกองใหญ่ๆหลงเหลืออยู่อีกแล้ว โดยเจ้าของตลาดได้ให้โรงงานต่างๆ มาขนไปทำเชื้อเพลิงจนเกลี้ยงไม่เหลือให้เห็นอีกต่อไปแล้ว ส่วนภายในสระน้ำทางตลาดเดชไท ได้นำผักตบชวามาปล่อยในสระน้ำ ที่ใช้ทิ้งขยะ เพื่อให้ผักตบชวา ช่วยดูดสารพิษที่อยู่ในน้ำออก

ส่วนเรื่องสุสานรองเท้ามือสอง จ.สระแก้ว ได้เร่งหน่วยงานในพื้นที่แก้ปัญหาแนวทางสกัดกั้นและจัดการปัญหารองเท้ามือสองตลาดเดชไทยและตลาดอื่นๆในตลาดโรงเกลือ บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งสั่งสินค้ามือสองจากต่างประเทศเข้ามาคัดแยกจำหน่ายเขตฝั่งไทย โดยนำเข้าผ่านศุลกากร อ.อรัญประเทศ และศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

จากข้อมูลของศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง มีการนำเข้ารองเท้ามือสองตั้งแต่พ.ศ.2551-2553 เป็นรองเท้าเก่าที่ใช้แล้ว น้ำหนัก 18,839 ตัน มูลค่าประมาณ 222 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากเกาหลีและปากีสถาน ในลักษณะกึ่งขยะ ยังไม่มีระเบียบเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าเมืองไทย แต่ประเทศไทยไม่ต้องการเป็นปลายทางที่ทิ้งขยะมหาศาล โดยใช้ช่องว่างของกฎหมาย

ดังนั้น ต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบ ส่วนด้านกฎหมาย ต้องใช้ข้อบังคับเพื่อดำเนินการแก้ไขให้เกิดการเข้มงวดการนำเข้าสินค้าเสื่อมสภาพมากขึ้นเช่นกัน