xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจศรีราชาพัฒนาสวนมะเดื่อฝรั่งแนวใหม่ รับตลาดสุขภาพโต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักธุรกิจในศรีราชา เร่งขยายพื้นที่ปลูกมะเดื่อฝรั่ง ผลไม้ที่กำลังได้รับความสนใจในกลุ่มผู้รักษ์สุขภาพทั่วโลก หลังผลวิจัยระบุเป็นผลไม้ที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของผลไม้เพื่อสุขภาพ ชี้แม้ตลาดในประเทศจะยังไม่โต แต่ราคา 300 บาทต่อกิโลกรัมก็ยังไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายในห้าง

วันนี้ (5 ก.พ.) นายเสริมรัฐ อติกนิษฐ เจ้าของสวน FIGS อโรคยา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เผยว่า ปัจจุบัน FIGS FRUIT หรือมะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่กำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้รักษ์สุขภาพในต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบสแกนดิเนเวีย และยุโรปซึ่งมีอากาศหนาวเย็น โดยผู้บริโภคเชื่อว่า บรรเทาอาการหนาวเย็นในร่างกายได้ เนื่องจากมีผลการวิจัยระบุว่าเป็นผลไม้ที่ติดบ 1 ใน 10 ผลไม้เพื่อสุขภาพ เพราะมีไฟเบอร์ และให้พลังงานสูง รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ

“กลุ่มผู้บริโภคต่างประเทศยังเชื่อว่าเป็นของดี 1 ใน 8 อย่างของพระเยซู นอกจากนั้น ยังเป็นผลไม้ที่ป้องกันโรคต่างๆ ที่สำคัญ กำลังได้รับความสนใจในกลุ่มผู้รักษ์สุขภาพในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้ปลูกมะเดื่อฝรั่งในรูปแบบธุรกิจยังมีไม่มากนัก โดยปัจจุบัน ชลบุรีมีสวนมะเดื่อฝรั่งเอกชนเพียง 4 ราย จึงทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค สำหรับราคาจำหน่ายกิโลกรัม 300 บาท ถือว่าสูงมาก ทำให้คาดว่าในอนาคตมะเดื่อฝรั่งจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกหนึ่งชนิดที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้ปลูก และประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”

นายเสริมรัฐ กล่าวว่า ได้เริ่มทดลองปลูกมะเดื่อฝรั่งมาตั้งแต่ 4 ปีก่อน โดยได้ต้นแม่พันธุ์จาก อ.พนัสนิคม ซึ่งเจ้าของสวนรายนี้ทำธุรกิจเพียงเพาะพันธุ์ขายเท่านั้น จึงมาต่อยอดและวิจัยเรื่องการใช้วัตถุดิบในการปลูกเพิ่มเติม เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีปริมาณ และคุณภาพที่ดีขึ้น และใช้งบประมาณส่วนหนึ่งจัดทำโรงเรือนขนาดใหญ่ 1 โรง และขนาดย่อมอีก 5 โรง เป็นโรงเรือนที่ควบคุมอุณหภูมิได้ ป้องกันแมลง จ่ายน้ำวันละ 3 เวลา เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งในอนาคตมีแผนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และเก็บผลผลิต หากสามารถขยายโรงเรือนในพื้นที่ซึ่งเหลืออีก 1 ไร่ได้สำเร็จ จะทำให้ผลผลิตมีมากพอส่งตลาด และเหลือให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

“ปัจจุบันมีต้นมะเดื่อฝรั่ง 700 ต้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 200 กิโลกรัมต่อวัน ส่งขายให้ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ รวมทั้งร้านอาหารอิตาเลียนที่สั่งซื้อไปประกอบอาหาร และกลุ่มผู้รักษ์สุขภาพ แต่ผลผลิตต่อวันยังไม่เพียงพอ เพราะได้ทำการแปรรูปด้วย”



กำลังโหลดความคิดเห็น