ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “แม่โจ้โพลล์” สำรวจความเห็นคนเชียงใหม่ พบส่วนใหญ่เชื่อสินค้าตรุษจีนแห่ขึ้นราคาถ้วนหน้า ทั้งเป็ด ไก่ หมู ส้ม สาลี่ จี้รัฐคุมด่วน
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ สำรวจความคิดเห็นชาวเชียงใหม่เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรช่วงตรุษจีนจำนวน 440 ราย เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน 21.9% และไม่มีเชื้อสายจีน 78.16%
โดยกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนมีสินค้าเกษตรเพียงพอต่อความต้องการ 59.4% ไม่เพียงพอต่อความต้องการ 40.6% และกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าตรุษจีนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า 88.8% ขณะที่ไม่มีผลต่อราคาสินค้ามีเพียง 11.2%
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับราคาของสินค้าเกษตรแต่ละชนิด กลุ่มตัวอย่างมองว่าเนื้อสัตว์ที่คาดว่าจะมีราคาเพิ่มขึ้นเรียงตามลำดับคือ เป็ด ไก่ หมู ส่วนผักและผลไม้ที่จะมีราคาเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ คือ ส้ม สาลี่ แอปเปิล
ส่วนประเด็นเรื่องการควบคุมราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาลในช่วงดังกล่าว พบว่า 82.3% เห็นว่ารัฐควรเข้ามาควบคุมราคาสินค้า 56.6% เห็นว่าพ่อค้าแม่ค้าบางรายฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และ 43.4% เห็นว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้มีผลกระทบเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป
ขณะที่ 17.7% เห็นว่ารัฐไม่ควรเข้ามาควบคุมราคาสินค้าเพราะเป็นกลไกตลาด และเป็นการขึ้นราคาช่วงสั้นๆ อีกทั้งจะทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นว่าความจริงรัฐไม่สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึง
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ สำรวจความคิดเห็นชาวเชียงใหม่เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรช่วงตรุษจีนจำนวน 440 ราย เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน 21.9% และไม่มีเชื้อสายจีน 78.16%
โดยกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนมีสินค้าเกษตรเพียงพอต่อความต้องการ 59.4% ไม่เพียงพอต่อความต้องการ 40.6% และกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าตรุษจีนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า 88.8% ขณะที่ไม่มีผลต่อราคาสินค้ามีเพียง 11.2%
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับราคาของสินค้าเกษตรแต่ละชนิด กลุ่มตัวอย่างมองว่าเนื้อสัตว์ที่คาดว่าจะมีราคาเพิ่มขึ้นเรียงตามลำดับคือ เป็ด ไก่ หมู ส่วนผักและผลไม้ที่จะมีราคาเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ คือ ส้ม สาลี่ แอปเปิล
ส่วนประเด็นเรื่องการควบคุมราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาลในช่วงดังกล่าว พบว่า 82.3% เห็นว่ารัฐควรเข้ามาควบคุมราคาสินค้า 56.6% เห็นว่าพ่อค้าแม่ค้าบางรายฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และ 43.4% เห็นว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้มีผลกระทบเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป
ขณะที่ 17.7% เห็นว่ารัฐไม่ควรเข้ามาควบคุมราคาสินค้าเพราะเป็นกลไกตลาด และเป็นการขึ้นราคาช่วงสั้นๆ อีกทั้งจะทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นว่าความจริงรัฐไม่สามารถควบคุมได้อย่างทั่วถึง
