xs
xsm
sm
md
lg

พบแล้วรถยนต์กระบะหนุ่มโรงงานจมน้ำตายปริศนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่พบแล้วรถยนต์กระบะของหนุ่มโรงงานจมน้ำตายปริศนา ที่ริมถนนเลียบคันคลองชลประทาน หมู่ 10 ต.ส่างโศรก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี

เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (4 ก.พ.) พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ ผกก.สภ.ท่าเรือ และ พ.ต.ท.อริยะ พันธุฟัก รอง ผกก.สส. สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกว่า 20 นาย ได้เดินเท้าตามเส้นทางที่นายธงชัย สีลา อายุ 28 ปี ขับรถยนต์กระบะออกจากร้านอาหารในเขต ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี แล้วหายตัวไปจนมาพบศพลอยอยู่ในแม่น้ำป่าสักใกล้กับเขื่อนพระรามหก ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการเดินเท้าตรวจเส้นทางมาตลอดจนกระทั่งพบร่องรอยรถยนต์ตกลงไปในคลองชลประทาน ริมถนนเลียบคันคลองชลประทาน ม.10 ต.ส่างโศรก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นช่วงโค้งหักศอก จึงได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำชุดประดาน้ำลงงมค้นหาคาดว่าเป็นรถยนต์กระบะที่หายไป ด้วยความลึกกว่า 3 เมตร ใช้เวลาค้นหาอยู่ประมาณ 20 นาที จึงพบรถยนต์กระบะอีซุซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน ป้ายแดง ม 3103 ลพบุรี จึงใช้รถยกลากรถยนต์กระบะขึ้นมาตรวจสอบพบว่า ฝากระโปรงรถเปิดอ้าขึ้นมาปิดกระจกหน้า ทรัพย์สินภายในรถของนายธงชัย ยังอยู่ครบทุกรายการ

พ.ต.ท.อริยะ กล่าวว่า จุดที่พบรถยนต์กระบะเป็นช่วงทางโค้งหักศอก ซึ่งจุดนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ เนื่องจากไม่มีสัญญาณเตือน ผู้ตายคาดว่าน่าจะขับรถมาด้วยความเร็วแล้วเสียหลักพุ่งตกลงไปในคลอง จังหวะนั้นผู้ตายได้พยายามเปิดประตูรถเพื่อหนีเอาตัวรอด และจากการสอบปากคำญาติผู้ตายทราบว่า ผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็น เมื่อออกจากรถมาแล้วจึงจมน้ำเสียชีวิตแล้วลอยไปตามคลองชลประทานไปเชื่อมกับแม่น้ำป่าสักระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.อาคม นิยมบรรเลง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพชายในแม่น้ำป่าสัก ใกล้บ้านพักข้าราชการชลประทาน ภายในเขื่อนพระรามหก หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือไปตรวจสอบพบศพ ทราบชื่อภายหลังคือ นายธงชัย สีลา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.10 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี ลอยคว่ำหน้า สวมเสื้อโปโลสีส้ม กางเกงขาสั้นสีครีม สวมนาฬิกาที่ข้อมือซ้าย เงินสดในกระเป๋าสตางค์อีกจำนวนหนึ่ง บลูทูธโทรศัพท์ แหนบเหน็บพระเครื่องที่ปกเสื้อ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้ว 1-2 วัน

ต่อมา นายใหญ่ สีลา อายุ 68 ปี บิดาผู้ตายพร้อมญาติได้เดินทางมาดูศพที่ สภ.ท่าเรือ และกล่าวว่า ผู้ตายทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุงบริษัท เควีเอส เพลทติ้ง จำกัด ภายในนิคมสหรัตนคร อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ออกจากบ้านมาเพื่อมาทำงานตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พร้อมกับรถกระบะอีซุซุ 4 ประตู สีดำ ป้ายแดง แล้วไม่ได้กลับบ้านจนมีตำรวจโทรศัพท์ไปแจ้งว่า ลูกชายเสียชีวิต ซึ่งกอนหน้าพบศพได้พยายามติดต่อลูกชายแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ออกจากบ้านตามหา และสอบถามเพื่อนร่วมงานทราบว่า หลังจากเลิกงานแล้วไปรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านฮิปบาร์ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เขตติดต่อ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ตกดึกเพื่อนแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนผู้ตายออกจากร้านไปเวลาประมาณ 03.30 น. แล้วไม่มีใครเห็นผู้ตายอีกเลย

ส่วนรถกระบะของลูกชายซึ่งออกตามโครงการรถคันแรก และเพิ่งจะผ่อนได้เพียงเดือนเดียว ในรถมีทรัพย์สินหลายรายการ เช่น โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน ไอแพด สร้อยคอทองคำที่ขาดยังไม่ได้เอาไปซ่อม ซึ่งปกติลูกชายไม่ค่อยดื่มสุราบ่อยนัก จะดื่มเฉพาะเวลาที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนเท่านั้น ทั้งยังเป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานช่วยเหลือทางบ้าน ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแวงกับใครที่ไหนมาก่อน

พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ ผกก.สภ.ท่าเรือ กล่าวว่า จากการชั้นสูตรพลิกศพเบื้องต้น ยังไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือต่อสู้ แต่ก็ได้สั่งให้ชุดสืบสวนไปตรวจที่ร้านอาหารที่ผู้ตายไปรับประทานกับเพื่อนจนถึงเวลาประมาณ 01.30 น. เพื่อนผู้ตายได้แยกย้ายกันกลับ ผู้ตายไปนั่งคุยต่อกับเจ้าของร้านจนถึงเวลาประมาณ 03.28 น.ได้ขับรถกระบะออกกลับบ้านที่ จ.สระบุรี แล้วไม่มีใครเห็นผู้ตายอีกเลย จนมาพบเป็นศพ เรียกเจ้าของร้าน เด็กในร้าน รวมทั้งเพื่อนผู้ตายมาสอบก็ยังไม่พบความผิดปกติ จึงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สำรวจเส้นทางกลับบ้านเพื่อหาร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุว่า ตกลงในน้ำหรือไม่ แต่ก็ยังไม่พบ หรืออีกสาเหตุหนึ่งอาจมีใครทำร้ายผู้ตายแล้วชิงรถกระบะไป โดยจะให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่ผู้ตายออกจากร้านเพื่อหาเบาะแสการหายไปของรถกระบะ





กำลังโหลดความคิดเห็น