ล้อมจับ “ไอ้เหี่ยว” ผู้ต้องหามือยิงตำรวจกาฬสินธุ์ แต่แห้ว จับได้แต่ลูกสาวพร้อมยาบ้า-ไอซ์

กาฬสินธุ์ - ชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยคอมมานโดภาค 4 ปิดล้อมค้นไล่ล่าจับ “ไอ้เหี่ยว” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์ และผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี พบเพียงลูกสาววัย 16 ปีกับเพื่อนกำลังมั่วสุมเสพยาในบ้าน ยึดยาบ้า 35 เม็ด ปืน 1 กระบอก เงินอีกกว่า 6 หมื่นบาท

เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ. 4 สั่งการให้ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นำชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด ชุดสืบสวน สภ.ท่าทันโค จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น และหน่วยอรินทราชหรือคอมมานโด ตำรวจภูธรภาค 4 ราว 50 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 160 หมู่ 10 บ้านคำเจริญ ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนางวิลัยภรณ์ แสงมณี อายุ 40 ปี อดีตภรรยานายไพรัตน์ วงค์ชาลี หรือ “ไอ้เหี่ยว” ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้ายาเสพติด คดีค้าไม้พะยูง คดีมีอาวุธสงคราม และคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ กรณี ร.ต.ต.ประยงค์ นากองศรี รองสารวัตรป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สภ.ท่าคันโทง ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างเข้าทำการจับกุมนางอุมา แสนกุง ผู้ต้องหาค้ายาบ้า ภรรยา นายไพรัตน์ พร้อมขโมยรถตำรวจหลบหนีไป โดยมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่านายไพรัตน์มาหลบซ่อนตัว เพื่อรักษาบาดแผลที่ถูกยิงภายในบ้านหลังดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมบ้านไว้ทุกด้าน แต่การตรวจค้นไม่พบนายไพรัตน์ พบเพียง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาวนายไพรัตน์ พร้อมเพื่อนชายอายุ 16 ปี และ 13 ปี ที่กำลังมั่วสุมเสพยาบ้าภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน และเข้าค้นภายในบ้าน

จากการตรวจค้นพบยาบ้า 35 เม็ด ยาไอซ์ 0.20 กรัม เงินสด 57,000 บาท ปืนขนาด .22 และกระสุนปืน 37 นัด และยึดรถจักรยานยนต์ 4 คัน โดย น.ส.เอ สารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนรับมาจากวัยรุ่นคนหนึ่งในหมู่บ้าน ส่วนปืนก็เอาไว้ป้องกันตัว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก น.ส.เอพร้อมเพื่อนอายุยังน้อย คาดว่ายาบ้าน่าจะเป็นของนายไพรัตน์ ที่นำมาให้ลูกสาวเป็นผู้นำไปขาย ส่วนปืนก็น่าจะเป็นของนายไพรัตน์ที่ให้ลูกสาวไว้ป้องกันตัว

พ.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า จากการติดตามไล่ล่านายไพรัตน์ ล่าสุดพบรถยนต์ที่คนร้ายขโมยไปที่ จ.อุดรธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายไพรัตน์น่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ทั้งใน อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และ จ.หนองคาย เพราะคนร้ายได้รับบาดเจ็บอยู่ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นผู้ต้องหารายนี้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย และมีหมายจับหลายคดี