ตามดูชีวิตทหารกล้าในนิคมทหารผ่านศึกอยุธยา

พระนครศรีอยุธยา - ตามไปดูชีวิตทหารกล้าผู้เสียสละ ภายในนิคมทหารผ่านศึก เนื่องในวันทหารผ่านศึก หลังจากต้องปกป้องประเทศชาติจนสูญเสียอวัยวะ เผยอยู่กันอย่างพอเพียง แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาอย่างเป็นระบบ หาพันธุ์ปลามาขาย และตลาด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่กดราคารับซื้อปลา

วันนี้ (3 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันทหารผ่านศึก ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังนิคมทหารผ่านศึกพิการบางไทร องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่พักพิงแห่งสุดท้ายของเหล่าทหารกล้าที่ปกป้องประเทศชาติจนต้องสูญเสียอวัยวะสำคัญในร่างกายกลายเป็นผู้พิการ ซึ่งปัจจุบัน มีครอบครัวทหารกล้า 80 ครอบครัว ทางนิคมจัดที่ดินให้ครอบครัวละ 2.5 ไร่ และให้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของตัวเองโดยวิธีเช่าซื้อ พร้อมส่งเสริมอาชีพ โดยการขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ปลูกผัก ผลไม้

นายเฉลิม อิ่มในเมือง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/25 หมู่ 10 ต.บางไทร อ.บางไทร อดีตอาสาสมัครทหารพรานที่ต้องสูญเสียขาซ้ายตั้งแต่ใต้เข่าลงไป กล่าวว่า เมื่อปี 2524 เดินลาดตระเวนตามแนวป่าใน จ.นครราชสีมา แต่พลาดพลั้งเหยียบกับระเบิดจนต้องสูญเสียขา แต่หลังจากรักษาตัวจนปี 2528 ได้เข้ามาอยู่ภายในนิคมแห่งนี้พร้อมครอบครัวรวม 5 คน ปัจจุบัน ได้เบี้ยบำนาญกว่า 20,000 บาทต่อเดือน แต่ยังคงดำเนินชีวิตตามรอยพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว แบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยเลี้ยงปลานิล ปลาตะเพียน ไก่บ้าน ไก่ไข่ไว้เก็บไข่กินทุกวัน รวมทั้งปลูกต้นมะม่วง ผลผลิตที่ได้นำมารับประทาน และแบ่งขายในตลาด

“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเรื่องการเลี้ยงปลา เพราะผมเป็นทหาร ไม่เคยรู้เรื่องการเลี้ยงปลา จึงอยากให้ช่วยเรื่องการคัดพันธุ์ปลาที่เหมาะกับพื้นที่และราคาที่มั่นคง เพราะปลาที่ซื้อมาเลี้ยงโตช้า บางครั้งเลี้ยงไม่ตรงความต้องการของตลาด ทำให้ไม่ได้ราคา”

นายศรี คำแคว่น อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/27 ม.10 ต.บางไทร อดีตอาสาสมัครทหารพราน ที่สูญเสียขาขวาตั้งแต่ต้นขาลงไป กล่าวว่า เมื่อปี 2523 ออกลาดตระเวนเพื่อรักษาอธิปไตยใน จ.น่าน และพลาดเหยียบกับระเบิด ใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน และเข้ามาอยู่ภายในนิคมเมื่อปี 2528 พร้อมครอบครัวรวม 6 คน โดยมีรายได้จากเบี้ยบำนาญกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ทุกวันนี้เลี้ยงปลาจะละเม็ด ไก่พื้นบ้าน ปลูกผักสวนครัว โดยแบ่งไปขายตามตลาด แต่ปัจจุบันอายุมากขึ้น และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ล้มป่วย ทุกวันนี้ต้องนั่งรถเข็น โดยมีภรรยาค่อยช่วยเหลือ

“ผมก็มีปัญหาที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ คือ การเลี้ยงปลา เพราะด้วยความพิการต้องจ้างคนมาช่วยจับปลาไปขาย ซึ่งค่าแรงสูงมาก ขณะที่เมื่อพ่อค้าแม่ค้าคนมารับซื้อถึงบ่อก็ให้ราคาต่ำ ไม่คุ้มกับค่าอาหารปลา จึงอยากให้ช่วยเหลือจัดระบบการเลี้ยงปลาของทหารผ่านศึกที่อยู่ภายในนิคม เนื่องจากปลาราคาไม่แน่นอน ค่าอาหารก็แพงขึ้น พันธุ์ปลาก็หาซื้อกันไม่เป็น หากช่วยเหลือเรื่องพันธุ์ปลา อาหาร และตลาดที่มั่นคงได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว”

นายศรี กล่าวว่า สำหรับนิคมให้การช่วยเหลืออย่างดี ทั้งจัดระบบบำบัดน้ำ เบิกใช้รถยนต์เมื่อสมาชิกต้องการเดินทางไปซื้อพันธุ์ปลา เดินทางไปภารกิจต่างๆ แม้เจ็บไข้ไม่มีรถก็จะจัดเจ้าหน้าที่พาไปรักษาทันที ถือว่าดูแลเป็นอย่างดี