ป.ป.ส.ชี้อีสานยาบ้าระบาดหนัก จี้ทุกภาคส่วนร่วมมือปราบจริงจัง

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ป.ป.ส.ติวเข้มผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน 20 จังหวัดภาคอีสาน เดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง “วิตถวัลย์” ห่วงยาบ้า-กัญชา-ยาไอซ์ระบาดหนักในอีสาน วอนทุกฝ่ายร่วมมือปราบปรามให้เด็ดขาด

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (31 ม.ค. 56) ที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้กำหนดจัดประชุมขึ้นเพื่อสรุปผลการดำเนินงานในด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีและการกำหนดแผนการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556

โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด, รองผู้ว่าฯ ที่รับผิดชอบงานยาเสพติด, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, นายอำเภอ, กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวม กว่า 1,106 คน เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า แม้การปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานทุกจังหวัดยังคงดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ดูได้จากผลของการจับกุมแต่กลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดยังคงพยายามและใช้ทุกวิถีทางในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ที่ผ่านมากลุ่มผู้ค้าใช้พื้นที่ภาคเหนือลำเลียงและลักลอบแต่ปัจจุบันภาคอีสาน ทุกจังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง กลับเป็นพื้นที่เป้าหมายที่กลุ่มผู้ค้าพยายามหาช่องทางลอบนำเข้ายาเสพติด

โดยเฉพาะยาบ้า กัญชา และยาไอซ์ ที่แพร่ระบาดในพื้นที่ภาคอีสานอย่างรุนแรง ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นอกจากการสรุปผลการทำงานที่ผ่านมาแล้ว ป.ป.ส.ได้เน้นย้ำในมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ทำอย่างจริงจัง

นายวิตถวัลย์ระบุอีกว่า การประสานงานร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดต่อจากนี้จะต้องมีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการประสานข้อมูลทางการข่าว และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่จะต้องเหลื่อมล้ำเวลาและเวลาต้องไม่ตรงกันทุกครั้งในทุกพื้นที่ เพื่อให้ขบวนนักค้ายาเสพติดไม่ทราบถึงการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เองก็จะต้องมีฐานข้อมูลการข่าวที่ชัดเจนและครอบคลุมให้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

“อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทุกฝ่ายในพื้นที่ภาคอีสานถือว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความร่วมมือและการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันของทุกฝ่าย”

รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเพิ่มเติมว่า สารระเหยเป็นยาเสพติดอีกหนึ่งชนิดที่ระบาดในพื้นที่ภาคอีสานที่น่าจับตามองที่สุด เพราะมีการผสมและปรับปรุงสูตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อจากนี้ไป ป.ป.ส.จะกวดขันจับกุมอย่างหนักเช่นกันเพื่อให้สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานนั้นเบาบางลงและหมดไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม พลังชุมชนคือกลุ่มกำนันและผู้ใหญ่บ้านจะต้องเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการสกัดกั้นและจับตาความเคลื่อนไหวของคนในชุมชนและบุคคลภายนอกที่เข้ามาในพื้นที่ เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่

ตลอดจนเป็นการเพิ่มกลยุทธุ์ในการป้องกันและสร้างความเข้มแข้งให้กับหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ ทั้งในด้านของคุณภาพและปริมาณ