ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ระทึก! รถบรรทุกหกล้อทหาร “บชร.2” กองทัพภาคที่ 2 โคราช พุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางในค่ายสุรนารีหักขาดครึ่ง พลขับสาหัสติดอยู่ในรถ 1 ราย หน่วยกู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดช่วยชีวิตออกมาได้ เผยโรคประจำตัวกำเริบเกิดหน้ามืดเป็นลม ขณะขับรถไปรับกำลังพลกลับหน่วยที่ตั้ง
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. ศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้รับแจ้งจากสารวัตรทหารบก ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ว่า มีอุบัติเหตุรถบรรทุกทหาร สังกัด กองพันทหารขนส่งที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ทหารถูกเสาไฟฟ้าทับได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านพัก พล.ต.มารุต ลิ้มเจริญ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง และแพทย์โรงพยาบาลค่ายสุรนารี รุดไปให้ความช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกทหารหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน กงจักร 10407 ด้านข้างระบุสังกัด กองพันทหารขนส่งที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) กองทัพภาคที่ 2 สภาพด้านหน้ารถพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรงจนเสาไฟฟ้าหักขาดโค่นล้มลงมาทับอยู่บนหลังคารถคันดังกล่าว และมีพลขับได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ 1 ราย เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดช่วยเหลือนำร่างออกมาได้อย่างปลอดภัย และรีบนำส่งรักษาโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ทราบชื่อต่อมาคือ จ.ส.อ.สุรชาติ ทหารนะ อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่ กองพันทหารขนส่งที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ทำหน้าที่เป็นพลขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ
จากการสอบถาม จ.ส.อ.สุรชาติ ทหารนะ ผู้บาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ทหารเบื้องต้นทราบว่า จ.ส.อ.สุรชาติได้รับคำสั่งให้ขับรถบรรทุกหกล้อไปรับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อนำกลับหน่วยที่ตั้ง ซึ่งขณะกำลังขับรถมาเพียงลำพังอาการป่วยจากโรคเบาหวานซึ่งเป็นโรคประจำตัวเกิดกำเริบขึ้นกะทันหันจึงเกิดอาการหน้ามืดและเป็นลม ทำให้รถบรรทุกเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นครราชสีมา ต้องตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราว ทำให้ภายในค่ายสุรนารีและประชาชนในละแวกใกล้เคียงไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลาเกือบ 30 นาที ก่อนที่จะเร่งดำเนินการแก้ไขและจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
