ลำปาง - ตำรวจลำปางโชว์ซ้อมควบคุมฝูงชนเสมือนจริงหวังเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นนำไปปฏิบัติ แต่ระหว่างการสลายมวลชนดันใช้แก๊สน้ำตาจริง ตำรวจหลายนายถึงกับทรุดต้องหามออกนอกสนาม
วันนี้ (28 ม.ค.) พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 เป็นประธานตรวจความพร้อมและชมการสาธิตการฝึกกองร้อยควบคุมฝูงชน ภ.จว.ลำปาง ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยจำลองสถานการณ์เริ่มต้นด้วยเรื่องการเตรียมพร้อมของกองร้อยมาตรฐาน การเคลื่อนย้ายกำลังพล การใช้ยุทธวิธีกองร้อยควบคุมฝูงชนขั้นพื้นฐานรูปแบบใหม่ การฝึกในสถานการณ์สมมติว่ามีผู้ชุมชุมุนมรวมตัวกันเพื่อจะฝ่าด่านของเจ้าหน้าที่เข้าไปหาผู้นำ ซึ่งเข้ามาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่บริเวณศาลากลางจังหวัดลำปาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามสกัดไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในเขตหวงห้าม เริ่มจากการประกาศเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามา และเตือนไม่ให้ใช้ความรุนแรง แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มบานปลาย จึงใช้คลื่นสัญญาณเสียง และตามด้วยแก๊สน้ำตาโยนใส่ผู้ชุมนุม เมื่อผู้ชุมนุมแตกกระเจิง เจ้าหน้าที่จึงได้ชาร์จเข้าจับกุมหัวหน้าแกนนำ และยึดรถเครื่องเสียง
ข่าวแจ้งว่า ระหว่างการซ้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่าการซ้อมครั้งนี้จะมีการใช้แก๊สน้ำตาจริงด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่หลายนายไม่ระวังตัวจึงโดนแก๊สน้ำตาเข้าอย่างจังถึงกับทรุดลงกลางสนามซ้อม ต้องหามออกนอกสนาม และรีบนำน้ำเปล่ามาล้าง เนื่องจากถูกแก๊สเข้าที่หน้าและตาจนทำให้หายใจไม่ออก แสบตา และอาเจียน หลังจากปฐมพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้วได้มีการซ้อมต่อ โดยจำลองเหตุการณ์ชุลมุนในงานคอนเสิร์ต โดยเฉพาะคาราบาว ซึ่งได้เชิญนักดนตรีเลียนแบบแอ๊ด คาราบาว มาขึ้นเวทีจำลองสร้างสีสันให้แก่การสาธิตในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการสาธิตว่า ปัจจุบันเกิดเหตุขึ้นมากมาย จำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ จึงได้แบ่งประเภทสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เบื้องต้นได้แยกประเภทไว้ คือ กรณีที่ป้องกันไม่ให้บุกรุกเข้าไปในเขตหวงห้าม การแก้ปัญหาผู้ชุมนุมปิดถนน และกรณีสุดท้ายคือ การจัดงานและคอนเสิร์ต ซึ่งจำเป็นต้องปรับรูปแบบให้เข้ากับสถานการณ์ ซึ่งต่อไปตำรวจจะไม่ได้รับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ของตนเองเท่านั้น แต่อาจจะต้องไปช่วยพื้นที่อื่นด้วย
“ในส่วนของตำรวจลำปางถือว่าได้มาตรฐานในระดับกองพัน ได้สาธิตให้ทุกจังหวัดในภาค 5 ที่เหลืออีก 7 จังหวัดได้ดู เพื่อนำไปฝึกซ้อมให้ได้ผลการปฏิบัติงานออกมาในทิศทางเดียวกันต่อไป”
