กาฬสินธุ์เร่งช่วยชาวนาถูกกองทัพหนูบุก หวั่นโรคฉี่หนูระบาด

กาฬสินธุ์ - กองทัพหนูอพยพยังคงบุกกัดกินต้นข้าวนาปรังของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลหลุบ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเสียหายแล้วกว่า 2,500 ไร่ และมีแนวโน้มขยายวงกว้างลามเข้าไปทำลายต้นข้าวเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือ หวั่นโรคฉี่หนูระบาด

จากกรณีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังในตำบลหลุบ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกกองทัพหนูตีนต่ำ หรือหนูจิงโจ้ หนูท้องขาว และหนูนาสารพัดชนิดจำนวนมากอพยพเข้ามากัดกินต้นข้าวและเมล็ดข้าวนาปรังที่กำลังเจริญเติบโตจนเหลือแต่ตอและฟางข้าวเสียหายแล้วหลายพันไร่ สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ

ล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค.) นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้นายอุดม สมรส รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่และนักวิชาการจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานเกษตรอำเภอเมือง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย

พร้อมนำรองเท้าบูต และคู่มือการดูแลและป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู ออกแจกจ่ายแก่เกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด เพราะเกรงว่าหนูที่อพยพมาจำนวนมากอาจจะนำเชื้อโรคมาด้วย พร้อมกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ ทั้งการนำแผ่นพลาสติกมาล้อมแปลงนา วางกับดัก และวางยาเบื่อเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและรักษาต้นข้าวของเกษตรกรให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ หลังพบว่ากองทัพหนูกำลังจะขยายวงกว้างลามเข้าไปกัดกินต้นข้าวบริเวณโดยรอบเพิ่มขึ้นอีก

นายอุดม สมรส รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังทราบเรื่อง นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ตนลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่าข้าวนาปรังของเกษตรกรถูกหนูท้องขาว หรือหนูตีนต่ำ หรือหนูจิงโจ้ และหนูนาจำนวนมากบุกเข้าไปทำลายกัดกินต้นข้าวของชาวบ้านเสียหายไปแล้วกว่า 2,500 ไร่ และกำลังขยายวงกว้างลามเข้าไปกัดกินต้นข้าวในพื้นที่รอบข้างเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งหากปล่อยไว้นาข้าวของเกษตรกรจะเสียหายทั้งหมด

ดังนั้นจึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานเกษตร สาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะการเพิ่มแนวรั้วพลาสติกล้อมนาข้าว เพิ่มจำนวนกับดัก และวางยาเบื่อมากขึ้น เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดไปกัดกินพื้นที่อื่นๆ

นอกจากนี้ยังได้นำรองเท้าบูต อุปกรณ์การป้องกัน และคู่มือการดูแลและป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู ออกแจกจ่ายแก่เกษตรกรทุกรายเพื่อป้องกันโรคระบาด เพราะเกรงว่าหนูที่อพยพมาจำนวนมากอาจจะนำเชื้อโรคมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยที่มาจากหนูอพยพครั้งนี้ ส่วนความเสียหายจะต้องพิจารณาให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง