พิษณุโลก - ชาวบ้าน 2 ชุมชนเขตพิษณุโลก-เลย ขอบริหารจัดการท่องเที่ยวชมดอกซากุระบานบนยอดภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ลงมติตั้งกรรมการร่วมดูแลนักท่องเที่ยว จัดการขยะ
วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและชุมชนในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ประกอบด้วย ผศ.ดร.ชุลีรัตน์ จันทร์เชื้อ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ผศ.ดร.บัญชร แก้วส่อง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น สำนักงานส่งเสริมการวิจัย(สกว.) ดร.จันทร์วิภา ธนะโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. นายสุเทพ เกือสังข์ ผู้อำยนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน นายบรรพต ยาฟอง นายอำเภอด่านซ้าย จ.เลย นายวิตชิณ คำนิมิตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กกสะทอน อ.ด่านซ้าย และนายพิเชษ ภูมิพานิช เจ้าหน้าที่นันทนาการ ตัวแทนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และประชาชนที่เป็นชุมชนการท่องเที่ยวบ้านร่องกล้า ชุมชนท่องเที่ยวตำบลกกสะทอน ร่วมประชุมกันที่ห้องประชุมร่องกล้า อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อหารือแนวทางร่วมบริหารจัดการท่องเที่ยวการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย บนยอดภูลมโล ยอดเขาสูง 1,600 เมตร ในเขตอุทยานฯ ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง ถือเป็นเป็นไฮไลต์การท่องเที่ยวของภูลมโล
ที่ประชุมเน้นหารือการจัดการท่องเที่ยวภูลมโล ชมดอกซากุระ เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะภูลมโลสามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือ เส้นทางด้าน ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย และบ้านร่องกล้า ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก รวมทั้งหาแนวทางดูแลนักท่องเที่ยว และการจัดการขยะที่นักท่องเที่ยวนำขึ้นไปด้วย
ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างชุมชนการท่องเที่ยว ต.กกสะทอน กับชุมชนการท่องเที่ยวบ้านร่องกล้า เพื่อดูแลนักท่องเที่ยว และชุมชนจะมีรายได้จากการบริการรถนำเที่ยว เป็นไกด์ท้องถิ่น รวมถึงดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวด้วย โดยมีอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา
ส่วนข้อสังสัยที่ว่าทำไมภูลมโลต้องไปอยู่ในความดูแลของ อบต.กกสะทอน ทั้งที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านั้น นายมนัส สีเสือ ประชาสัมพันธ์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ชี้แจงว่า อุทยานตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.เลย ซึ่ง อบต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย สามารถโปรโมตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลและอยู่ภายใต้กฎระเบียบของอุทยาน
