ประจวบคีรีขันธ์ - ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ สางคดีสังหารผู้ใหญ่บ้านคนดังกาญจนบุรี ยืนยันทีมสังหารเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้าง ตั้งประเด็นในการสังหารเรื่อง “การเมืองท้องถิ่น” คาดทีมสังหารติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายตั้งแต่ออกจากกาญจน์ จนถึงประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบรถพบกุญแจดอกสำคัญในการคลี่คลายคดีเป็นรถยนต์เก๋งของผู้หญิงคนหนึ่งในนครปฐม
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (13 ม.ค.) พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อม พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บัญชาการตำวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผู้บังคับการศูนย์สืบสวน ตำรวจภูธภาค 7 พ.ต.ท.เสวก อรุณรุมแสง สารวัตรใหญ่ สภ.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธื พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ตำรวจสืบสวนภูธรประจวบฯ ตำรวจ สภ.สามกระทาย เดินทางไปยังวัดทุ่งประดู่ ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน กธ 6517 นครปฐม ของกลุ่มมือปืนที่ใช้เป็นยานพาหนะสังหารนายเด่นพงษ์ ดาบธรรม ผู้ใหญ่บ้านรางเกลือ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือทั้งหมดอย่างละเอียดไปตรวจสอบ
พร้อมกับเดินทางไปยังสถานีบริการน้ำมัน ปตท.อ.กุยบุรี จุดที่กลุ่มมือปืนลงมือสังหารผู้ใหญ่บ้านรางเกลือ โดยภายในรถยนต์เก๋งพบผ้าเช็ดตัวของโรงแรมดังในพัทยา และเสื้อผ้าผู้หญิง ทั้งนี้ รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมีผู้ครอบครองเป็นผู้หญิง ทราบชื่อคือ อารีพร พราหมเกษม อยู่ที่จังหวัดนครปฐม
อย่างไรก็ตาม การพบรถยนต์เก๋งของทีมสังหารในครั้งนี้ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญในการคลี่คลายคดีเป็นอย่างมาก เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าบุคคลใดเป็นผู้นำรถยนต์ดังกล่าวมาใช้ในวันเกิดเหตุ
อีกทั้งยังได้เรียกประชุมนายตำรวจชุดคลี่คลายคดีทั้งหมดภายในห้องประชุม สภ.สามกระทาย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง ซึ่งในที่ประชุมใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวภายหลังประชุมว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร ทั้งการสเกตช์ภาพใบหน้ากลุ่มมือปืน 2 ใน 3 คนที่ร่วมทีมสังหาร และรถยนต์คันดังกล่าวทราบเจ้าของรถซึ่งจะเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป ส่วนภาพสเกตช์ไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้
“เบื้องต้น ทีมสังหารน่าจะเป็นมืออาชีพ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นซุ้มไหน โดยการลงมือของทีมสังหารนั้นทำงานเป็นทีม ซึ่งจากการพิสูจน์หัวกระสุนน่าจะเป็นอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 หรือขนาด .357 เพราะผู้ใหญ่เด่นพงษ์ ดาบธรรม เสียชีวิตตั้งแต่กระสุนนัดแรกที่เข้าบริเวณศีรษะแล้ว ส่วนไกด์สาวแค่ถูกลูกหลงบาดเจ็บเล็กน้อย สำหรับประเด็นการลงมือสังหารสรุปได้ทั้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น ตลอดจนปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว และธุรกิจที่ผู้ใหญ่บ้านทำอยู่”
