ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจจราจรเชียงใหม่ร่วมหารือชมรมชาวนิมมานเหมินท์ หลังชาวนิมมานฯ ข้องใจแผนทดลองวันเวย์ในซอยเลขคี่เดือนมกราคมยังไม่มีความชัดเจนหลายจุด-หวั่นทำรถติดหนักกว่าเดิม ด้านผู้การจราจรแจงตั้งเป้าทดลอง 1 เดือนเต็มหวังแก้ปัญหารถติดในซอย แต่เว้นซอย 1, 3, 17 เดินรถตามเดิมไว้เปรียบเทียบ คาดเลื่อนไปเริ่มทดลองเดือนกุมภาพันธ์ เหตุเลี่ยงงานรับปริญญา มช.
วันนี้ (10 ม.ค.) ตัวแทนจากชมรมชาวนิมมานเหมินท์ จ.เชียงใหม่ นำโดยนายอุดม สุริยเดช ประธานชมรมชาวนิมมานเหมินท์ และนายขรรคจิต คุ้มสอน ผู้ประสานงานเรื่องการจราจร ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย ผู้กำกับการกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งร่วมหารือถึงกรณีที่กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จะดำเนินการทดลองจัดทำการเดินรถทางเดียว (One Way) ในซอยเลขคี่ ถนนนิมมานเหมินท์ ซึ่งมีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2555 พร้อมทั้งระบุว่าจะเริ่มทำการทดลองเดินรถทางเดียวตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2556 เป็นต้นไป
โดยการหารือชมรมชาวนิมมานเหมินท์ได้สอบถาม พ.ต.อ.สิทธิชัยในประเด็นต่างๆ ที่ทางกลุ่มมีข้อสงสัย เกี่ยวกับการทดลองเดินรถทางเดียวในซอยเลขคี่บนถนนนิมมานเหมินท์ ทั้งสาเหตุที่ตำรวจจราจรเตรียมที่จะจัดการทดลองเดินรถทางเดียวขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เคยมีการทดลองในลักษณะดังกล่าวมาแล้วในช่วงต้นปี 2555 ในซอย 3, 5 และ 7 วัตถุประสงค์ของการทดลองในครั้งนี้ตั้งเป้าที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องใดบ้าง การทดลองดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาเท่าใด และใช้หลักเกณฑ์ใดบ้างในการประเมินผล
นอกจากนี้ ทางชมรมชาวนิมมานเหมินท์ยังได้สอบถามถึงวิธีการดำเนินการทดลองในครั้งนี้ โดยระบุว่าแม้จะมีการจัดทำป้ายเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงโครงการดังกล่าว แต่ปรากฏว่าป้ายที่จัดทำขึ้นกลับติดตั้งกีดขวางทางเดินเท้า หรือปิดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นและขับขี่รถ รวมทั้งยังมีรายละเอียดไม่ชัดเจน และไม่ครอบคลุมไปถึงพื้นที่ถนนศิริมังคลาจารย์ซึ่งเป็นเส้นทางคู่ขนานกับถนนนิมมานเหมินท์
ขณะที่เรื่องของเครื่องหมายทางเข้า ทางออกที่จุดตัด จุดเชื่อมก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร และยังไม่มีการชี้แจงว่าซอยใดจะกำหนดให้เป็นทางเข้าและทางออกบ้าง อีกทั้งยังวิตกว่าการบังคับเดินรถทางเดียวในซอยเลขคี่อาจเป็นการผลักดันให้ปริมาณรถบนถนนหลักเพิ่มขึ้นในช่วงที่การจราจรคับคั่ง รวมทั้งยังต้องการทราบด้วยว่า หากเปลี่ยนเป็นการทดลองเดินรถทางเดียวแล้ว จะมีการบังคับห้ามจอดวันคู่ วันคี่ ภายในซอยต่างๆ อยู่หรือไม่ ซึ่งรวมไปถึงถนนตัดขวางที่เชื่อมซอยต่างๆ ซึ่งแต่เดิมไม่เคยมีการห้ามจอดด้วย และต้องการให้กลุ่มงานจราจรกำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการควบคุมให้ผู้ใช้รถปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด และไม่ใช้ความเร็วที่มากเกินควรหากเปลี่ยนเป็นการเดินรถทางเดียว
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิชัยได้ชี้แจงว่า การทดลองเดินรถทางเดียวนั้นมีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสภาพการจราจรภายในซอยต่างๆ บนถนนนิมมานเหมินท์ หลังจากที่ได้รับข้อมูลและการร้องเรียนจากประชาชนว่าประสบปัญหาไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากติดขัดจากการที่รถจอดภายในซอยต่างๆ ทั้งสองฝั่ง ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลและพื้นที่แล้วเห็นว่าการจัดเดินรถทางเดียวน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ จึงตรียมที่จะทดลองทำตามที่มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์เอาไว้ โดยในเบื้องต้นกำหนดที่จะทำการทดลองเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน โดยจะเริ่มในวันที่ 20 ม.ค.เป็นต้นไป แต่มีผู้ท้วงติงว่าในช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จึงจะเลื่อนกำหนดการทดลองออกไป โดยคาดว่าจะทำการทดลองในเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้
ขณะที่การกำหนดเส้นทางเดินรถนั้นจะมีการดำเนินการรวม 6 ซอย ได้แก่ นิมมานเหมินท์ซอย 5, 7, 9, 11, 13 และ 15 โดยซอย 5, 9 และ 13 จะกำหนดให้รถวิ่งออกมายังถนนนิมมานเหมินท์เพียงอย่างเดียว ส่วนซอย 7, 11 และ 15 จะกำหนดให้รถวิ่งเข้าซอยเพื่อออกไปยังถนนศิริมังคลาจารย์เพียงอย่างเดียว ขณะที่ถนนตัดขวางทั้งหมดภายในซอยต่างๆ จะอนุญาตให้เดินรถทางเดียวเช่นกัน โดยกำหนดให้ไปทางทิศเหนือเท่านั้น และจะมีการบังคับห้ามจอดวันคู่ วันคี่ภายในซอยต่างๆ เช่นเดิม ส่วนซอย 1, 3 และ 17 จะไม่มีการจัดเดินรถทางเดียว แต่จะปล่อยให้มีการเดินรถสองทางตามปกติเพื่อใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับถนนที่มีการทดลองเดินรถทางเดียว
พ.ต.อ.สิทธิชัยกล่าวว่า เมื่อมีการกำหนดวันเวลาที่จะดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้ว เจ้าหน้าที่จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ รวมทั้งเข้าทำการติดตั้งเครื่องหมายจราจรและป้ายเตือนตามจุดต่างๆ ที่จำเป็น ขณะที่ในช่วงแรกของการดำเนินการจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาช่วยอำนวยความสะดวก รวมทั้งจะมีการติดตั้งแผงเหล็กเพื่อกั้นเส้นทางเข้าซอยที่ห้ามเข้าอีกด้วย ทั้งนี้คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ทั้งผู้ที่ต้องเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวและผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนิมานเหมินท์บ้างพอสมควร แต่คาดว่าเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วประชาชนจะเข้าใจระบบการเดินทางมากขึ้น และเมื่อครบกำหนดการทดลองแล้วก็จะยุติทันที
ด้านการประเมินผลการทดลองนั้น ผู้กำกับการกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่าจะมีการเปรียบเทียบข้อมูลกับซอยที่ไม่มีการทดลอง รวมทั้งประเมินผลจากสภาพการจราจรที่เกิดขึ้นในช่วงการทดลอง และจากความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ โดยเฉพาะจากผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ซึ่งคงจะต้องขอความร่วมมือในการมีส่วนร่วมสังเกตและติดตามผลการดำเนินการอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกัน หากพบว่ามีข้อขัดข้องหรือสิ่งที่ควรแก้ไขปรับปรุงก็จะดำเนินการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเหมาะสมทันที ส่วนผลสรุปที่ได้จะถูกนำไปประเมินว่าแนวทางดังกล่าวเหมาะสมที่จะนำมาใช้แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนสายนิมมานเหมินท์ ซึ่งในปัจจุบันประมาณการว่ามียานพาหนะใช้เส้นทางดังกล่าวอย่างต่ำวันละ 20,000 คันต่อวันหรือไม่ต่อไป