บุรีรัมย์ - แล้งหนักในรอบ 30 ปี ทั้งวัด โรงเรียน และชาวบ้าน 2 หมู่บ้านในเขต อ.เมืองเดือดร้อนหนักต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้ หลังสระน้ำกลางหมู่บ้านแห้งขอด เทศบาลฯ สำรวจรายงานอำเภอ-จังหวัดเร่งช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (10 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บุรีรัมย์ว่า จังหวัดบุรีรัมย์ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือ บ้านสำโรง หมู่ 3 และบ้านสำโรงเหนือ หมู่ 21 ต.หนองตาด อ.เมือง รวม 229 ครัวเรือน ประชากรกว่า 1,200 คน กำลังเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ หลังสระน้ำกลางหมู่บ้านซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาให้บริการชาวบ้าน นักเรียน และพระสงฆ์ทั้ง 2 หมู่บ้านแห้งขอด ล่าสุดชาวบ้านต้องช่วยกันทำคันดินกั้นเพื่อดึงน้ำขึ้นมาผลิตน้ำประปา แต่คาดว่าจะสูบน้ำได้อีกไม่เกิน 3 วัน ประกอบกับน้ำเป็นขุ่นโคลน ทำให้ชาวบ้านต้องซื้อน้ำดื่มน้ำใช้จากพ่อค้าเร่คันละ 150 บาท หากเป็นครัวเรือนขนาดเล็กจะใช้ได้ 2-3 วัน แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่จะใช้ได้เพียงวันเดียว สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นายไพบูลย์ นันทะพันธ์ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านสำโรงเหนือ หมู่ 21 ต.หนองตาด กล่าวว่า จากสภาพสระน้ำกลางหมู่บ้านที่แห้งขอดถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือ โดยการขุดลอกคลองเพื่อดึงน้ำจากสระหนองโสน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เข้ามาเติมในสระกลางหมู่บ้าน ให้สามารถใช้ผลิตน้ำประปาบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็ว
นายสุพิษ ทับอุดม รองนายกเทศมนตรีตำบลหนองตาด กล่าวว่า ใน ต.หนองตาดมีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง 5 หมูบ้าน แต่หนักที่สุดคือ 2 หมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นเทศบาลฯ ได้รายงานไปยังทางอำเภอ จังหวัด และทางจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว เพราะเทศบาลฯ ไม่มีงบประมาณเพียงพอในการขุดลอก ทำได้เพียงนำน้ำมาแจกจ่ายวันละ 6-8 เที่ยว แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
