วันนี้ (9 ม.ค.) เวลา 09.30 น. พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 ได้สังการให้ พล.ร.ต.ประดิษฐ์ ศิริคุปต์
รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 สนธิกำลังร่วมกับกองกำกับการ 5 กองกำกับการตำรวจน้ำ ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นำเรือหลวงรัตนโกสินทร์ออกลาดตระเวนตรวจจับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม หลังรับแจ้งว่า มีการลับลอบเข้ามาทำประมงในฝั่งอ่าวไทยด้านทิศตะวันออก
ต่อมา ขณะเรือหลวงรัตนโกสินทร์ออกลาดตระเวนบริเวณตอนใต้เกาะจวง ระยะ 53 ไมล์ พบกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประมาณ 5 ลำ กำลังทอดสมอลอยลำทำประมง เมื่อเห็นเรือของทางการได้ขับเรือหนีไปคนละทิศละทาง จับกุมได้เพียง 2 ลำ คือ เรือหมายเลข CM 99362 TS ตัวเรือสีเขียวคาดฟ้า ยาว 8 วา ไต๋พร้อมลูกเรือรวม 10 คน และเรือหมายเลข CM 99689 TS ตัวเรือสีขาวคาดฟ้า ยาว 3 วา ไต๋พร้อมลูกเรือรวม 11 คน จึงควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือทั้งหมดเข้าเทียบยังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีข้อหาทำการประมงรุกล้ำน่านน้ำไทยในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หนีเข้าราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.สิทธิทำการประมง
พล.ร.ต.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาทำประมงในอ่าวไทยพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ สร้างผลกระทบให้แก่ประมงไทยอย่างมาก รวมถึงสถานะด้านความมั่นคงของชาติ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบปราบปรามจับกุมเรือประมงต่างชาติ จึงออกลาดตระเวนอย่างเข้มงวด ซึ่งปีที่ผ่านมา สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้เกือบ 30 ลำ ชี้ให้เห็นว่า อ่าวไทยมีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ต้องรักษาไว้เพื่อเป็นผลประโยชน์ของชาติสืบไป