พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านบางปะหันโวยชลประทานบางแก้ว ปล่อยคนปลูกบ้านรุกล้ำเขตชลประทาน และทางสาธารณะ แถมยังบังทางเข้าบ้าน แจ้งความตำรวจ และร้อง อบต.แล้วไม่คืบ นายอำเภอบางปะหันส่ง จนท.เข้าตรวจสอบ
วันนี้ (8 ม.ค.) น.ส.วิรินทร์ทิพย์ มหาโร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/5 ม.5 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร้องเรียนว่า บ้านแม่ของตนอยู่ที่บ้านเลขที่ 29/7 ม.2 ต.บ้านกุ่ม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ได้โอนให้ตนแล้ว โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ใกล้กับคลองชลประทานบางแก้ว อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งบ้านหลังนี้ปลูกอยู่มานานตั้งแต่รุ่นปูย่าตายายจนมาถึงแม่ตน และเป็นที่มีโฉนด แต่จู่ๆ ได้มีนายปรีชา ดาวกระจาย นายพวง บุญปกครอง และนายชัยยุทธ อ่อนศีระ โดยทั้ง 3 คนอยู่บ้านเลขที่ 28 ม.2 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้ามาปลูกบ้านตรงพื้นที่คลองชลประทานบางแก้ว เพื่อให้นายโก๊ะ ดาวกระจาย ซึ่งเป็นญาติกันอยู่ แล้วบังทางเข้าบ้านตน ซึ่งตนเคยทักท้วงไปแล้วว่าปลูกไม่ได้เนื่องจากเป็นเขตของชลประทาน และบดบังทัศนียภาพของบ้านตน
แต่ทั้ง 3 ก็ทำเฉย และปลูกบ้านอยู่ตั้งแต่เดือน ก.ค.55 ตนเลยไปแจ้งความที่ สภ.บางปะหันไว้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.55 แต่ก็ไม่เป็นผล จึงไปร้องกับ อบต.ทับน้ำ และชลประทานบางแก้ว เพื่อให้แก้ไขปัญหากับบ้านหลังดังกล่าวที่มาปลูกบดบังทางเข้าบ้าน และรุกล้ำเขตชลประทานบางแก้ว และทางสาธารณะ แต่ได้รับคำตอบจากนายก อบต.ทับน้ำ ว่าให้ประนีประนอมค่อยๆ พูดจากัน แล้วไม่ดำเนินการอะไรให้ ตนจึงมาร้องที่อำเภอบางปะหัน เพื่อขอความเป็นธรรม
ด้านนายศิริชัย อัมพวา นายอำเภอบางปะหัน กล่าวว่า น.ส.วิรินทร์ทิพย์ ได้มาร้องเรียนจริง และตอนนี้ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของชลประทาน หรือทางสาธารณะ หากเป็นที่ของชลประทานก็จะได้ประสานงานกับชลประทานให้มาดำเนินการ ถ้าหากเป็นพื้นที่ลำรางสาธารณะก็ต้องให้รื้อถอนให้พ้นจากพื้นที่สาธารณะดังกล่าว
แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น นายโก๊ะ ผู้ที่มาปลูกสร้างบดบังบ้านของ น.ส.วิรินทร์ทิพย์ นั้นมีฐานะยากจน ไม่มีที่ และบ้านเป็นของตนเอง อาศัยญาติอยู่เมื่อเลิกกับภรรยาก็มาอาศัยอยู่กับญาติจนกระทั่งญาติมาหาที่ปลูกบ้านให้ จึงมาปลูกสร้างบ้านในที่สาธารณะแห่งนี้ แต่ก็ไปบดบังทางเข้าบ้านคนอื่น ซึ่งจะได้เรียกคู่กรณีมาทำความเข้าใจกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับบ้านหลังดังกล่าวไม่มีเลขที่ ปลูกขึ้นลอยๆ ยกใต้ถุนสูง