พิจิตร - ชาวนาพิจิตรร้องโครงการขุดลอกคลองงบ 4 ล้าน แต่ตัดราคาแย่งงานกันเหลือ 1.7 ล้าน สุดท้ายได้งานไม่ตรงสเปก แต่ส่งมอบงาน-เบิกเงินงวดสุดท้ายได้ แถมผู้รับเหมายังบอก “จ่ายหัวคิวแล้วไม่สนชาวบ้านระทม”
นายพัน บรรเจิดศิลป์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร พร้อมด้วยชาวนาจำนวนหนึ่ง ได้พาผู้สื่อข่าวดูผลงานของผู้รับเหมาโครงการฟื้นฟูพัฒนาแหล่งน้ำเดิมเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเมื่องบประมาณปี 2555 ที่ส่อว่าจะเกิดการทุจริตขึ้น
โครงการดังกล่าวเขียนหลักการและเหตุผลว่า ต้องการใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งแก่เกษตรกร และมอบให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงาน ปภ.พิจิตร เป็นผู้ว่าจ้างผู้รับเหมาให้มาดำเนินการขุดลอกคลองไดชุมแสง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นคลองที่มีความยาวเข้าเขตติดต่อกับคลองในอำเภอโพธิ์ประทับช้าง
โดยมีข้อความระบุในสัญญาว่าจ้างให้ขุดลอกเป็นระยะทางยาว 1,500 เมตร ความลึกเฉลี่ย 4 เมตร และให้ทำแนวลาดคันคลองของตัวคลองตลอด เมื่อขุดดินขึ้นมาแล้วต้องมีปริมาตรดินตามกำหนดมาวางกองบนคันคลอง พร้อมทั้งเกลี่ยเป็นพื้นเรียบเพื่อให้เป็นถนนตามแนวริมคันคลองเพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้สัญจรไปมา เพื่อขนพืชผลทางการเกษตรได้ทั้งสองฝั่งคลอง
ซึ่งโครงการนี้ประกาศประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 4 ล้านบาทเศษ แต่ปรากฏว่าผู้รับเหมามีการแข่งขันและฟันราคาเหลือแค่ 1,700,000 บาทเศษ เมื่อถึงเวลาทำงานจริง ผู้รับเหมาได้ทำการขุดลอกคลองมีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1 เมตรเท่านั้น ทั้งๆ ที่ตามแบบจะต้องขุดลึก 4 เมตร ส่วนดินที่ขุดมาได้ก็วางกองทิ้งเรี่ยราดอยู่ริมคันคลองไม่มีการเกลี่ยให้เรียบเพื่อให้เป็นถนนตามแบบที่ระบุในสัญญา
ในระยะที่ผ่านมา ผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เข้าถึงรายละเอียดของโครงการต่างไปตำหนิผู้รับเหมา และขอร้องให้ทำงานให้ดีเพื่อให้เกิดประโยชน์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล แต่ได้รับคำตอบให้น่าเจ็บใจว่า “จ่ายเปอร์เซ็นต์ให้นายแล้ว นายจะรีบให้ออกเช็คงวดสุดท้าย ทำงานอย่างไรก็ผ่าน อยากร้องก็ร้องไปไม่สน”
นอกจากนี้ ในขั้นตอนตรวจรับงานก็มีการนัดกันกับผู้นำชุมชนและกำนัน นายก อบต. จะขอดูหน้างาน เพื่อถ่ายรูปและวัดระดับ ซึ่งการตรวจนั้นจะต้องเป็นคลองที่แห้งไม่มีน้ำ แต่ปรากฏว่าผู้รับเหมากลับปล่อยน้ำเข้ามาในคลองจนท่วมงานที่ทำไม่ได้มาตรฐานไปแล้ว จึงทำให้ไม่สามารถดำน้ำลงไปดูได้
กระทั่งสิ้นปีงบประมาณ 2555 แม้งานจะไม่เรียบร้อย ผู้รับเหมาก็ถอนเครื่องจักรหยุดการทำงาน ทำให้ทางนายก อบต. กำนันตำบลเมืองเก่า ขอตรวจสอบข้อมูล จึงได้รู้ว่าผู้รับเหมาเบิกเงินค่างวดงานงวดสุดท้ายไปแล้ว จนต้องรวมตัวกันร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน
ล่าสุดหลังจากเป็นข่าวแพร่สะพัดออกไป นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร คนปัจจุบัน ได้สั่งการให้ตรวจสอบติดตามผู้รับเหมามาแก้งาน แต่ถ้าเรียกแล้วไม่มาก็จะขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมารายนี้ แต่ยังไม่ปรากฏคำสั่งตรวจสอบเอาผิดข้าราชการ หรือช่างที่ตรวจรับงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่พัสดุของสำนักงาน ปภ.พิจิตร แต่อย่างใด
ขณะที่นายทแกล้ว นุศรีวอ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตรคนปัจจุบัน ที่เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งได้ไม่นาน ก็ชี้แจงต่อที่ประชุมผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชน ประจำเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่า งบประมาณมีแค่ 1.7 ล้านบาท ผู้รับเหมาจึงทำได้แค่นี้
