“พัทยา” ชื่อนี้เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสียงของไทย ในเรื่องของชายหาดสวย น้ำทะเลใส ใครๆก็ปรารถนาเดินทางมาสัมผัสถึงความสวยงามของเมืองพัทยาทั้งในกลางวันและกลางคืน แต่วันนี้ พบว่า นักท่องเที่ยวกำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากกลุ่มมิจฉาชีพ
หลายคนเข้าใจว่า พัทยา คือเมืองแห่งสีสันและความบันเทิงในยามค่ำคืน มีแสง สี เสียง คอยดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้ามาในเมืองพัทยา
ในขณะที่อีกมุมมองหนึ่งเป็นมุมมองทางด้านแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เมืองพัทยาก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ดีมากมาย ที่สามารถดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเมืองพัทยาในตอนกลางวันได้เป็นอย่างดีเช่นกัน จนเป็นที่กล่าวขานกันของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ว่าพัทยา คือ “สวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยว”
จากเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในเมืองพัทยา ได้ทำให้ชื่อเสียงที่ดีงามของเมืองท่องเที่ยวแหล่งนี้สั่นคลอน ทั้งกรณีของ 2 แหม่มสาวชาวรัสเซียถูกข่มขืน 4 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียโดนโจ๋พัทยาขี่จักรยานยนต์ควงปืนจี้ชิงทรัพย์ หรือแม้แต่ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพัทยา ก็ยังไม่เว้น โดนมือมืดใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่กระจกบานเลื่อนหลังห้องพักแตกและตู้เก็บเอกสารได้รับความเสียหาย ในช่วงคืนเคานต์ดาวน์รับปีใหม่
แต่ละเหตุการณ์ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้สร้างความเสียหายให้แก่ภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาทั้งสิ้น
โดยเฉพาะ กรณีของนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียถูกข่มขืน ทำให้กงสุลของสถานเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซีย ในราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ ประกอบด้วย ตัวแทนสมาคมการค้าแห่งรัสเซียในประเทศไทย, คณะกรรมการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในต่างประเทศ, ตัวแทนบริษัทประกันภัยแห่งรัสเซีย และทัวร์เอเยนซี ได้มีหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา
ประเด็นหลักของการหารือ คือปัญหาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวรัสเซีย ซึ่งดูจากสถิติแล้ว นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงมาก จากในอดีตจาก 3 แสนคนต่อมา ขยับมาเป็น 6 แสนคน และ 9 แสนคน ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามามากถึง 1.2 ล้านคน และคาดว่าในปี 56 จะมีมากถึง 1.4 - 1.5 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขการเติบโตแบบก้าวกระโดด จนทำให้ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มากเป็นอันหนึ่งของเมืองพัทยา คือ รัสเซีย
แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียต้องเผชิญ ในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นความห่วงใยจากทาง สถานเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซีย คือ ชาวรัสเซียทั้งการถูกทำร้ายร่างกายเพื่อชิงทรัพย์ หรือทำร้ายร่างกาย ด้วยเป้าหมายอื่นๆ ในหลายกรณี แต่สิ่งที่อ่อนไหวที่สุดในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือการละเมิดสิทธิ์ของพลเรือนรัสเซีย โดยกรณีการยึดหนังสือเดินทางของพลเรือนรัสเซีย เนื่องจากทางการรัสเซียเห็นว่า หนังสือเดินทางประเทศรัสเซียเป็นสมบัติของรัฐบาล ไม่ใช่สมบัติส่วนตัว ของนักท่องเที่ยวหรือพลเรือนของประเทศรัสเซีย หากหน่วยงานของไทยต้องการหลักประกันของพลเมืองรัสเซีย ควรที่จะยึดเอกสารอื่นๆ ทดแทนการยึดหนังสือเดินทาง รวมทั้งสิ่งที่ทางการรัสเซียต้องการคือ ความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจากรัฐบาลไทย
ปัญหาที่เกิดกับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นพลเมืองรัสเซีย และชาติอื่นๆ แม้แต่คนไทยเอง ช่วงที่ผ่านมา เคยเกิดขึ้นอย่างไร จนถึงวันนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่อย่างนั้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจี้ชิงทรัพย์ ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข และใส่ใจจากรัฐบาล และคาดว่าในอนาคตน่าจะมีแนวโน้มเกิดมากขึ้น
จากเหตุการณ์ที่ขึ้นกับนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา นายอรรถพล วรรณกิจ ผอ.ททท.พัทยา กล่าว่า หน่วยงานในพื้นที่ทั้งระดับจังหวัดและเมืองพัทยาเองได้ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่จะฝากไปยังผู้ประกอบการ คนพัทยา หรือคนที่มาอาศัยเมืองพัทยาทำมาหากิน ช่วยกันรักษา ชื้อเสียงของประเทศ ด้วยการเป็นพลเมืองที่ดี ให้การต้อนรับและมีไมตรีกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งช่วยกันสอดส่อง พวกมิจฉาชีพ และแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองพัทยา ทุกคนต้องช่วยกัน
ทุกคน ทั้งผู้บริหารประเทศ ผู้บริหารเมืองพัทยา รัฐบาล ตำรวจ และทุกฝ่ายคงต้องหันมาร่วมมือกันพัฒนาและเปลี่ยนภาพลักษณ์เมืองพัทยาเสียใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและ ต่างชาติ เข้าใจว่า จริง ๆ แล้ว พัทยา ยังคงเป็น “สวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยว” ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด