ตาก - แรงงานพม่า-กะเหรี่ยงยังได้ค่าแรงเท่าเดิม นายจ้างชายแดนชี้อีก 1-2 เดือน ราคาสินค้าจะสูงขึ้นตามอัตราค่าแรงงานเช่นกัน ประชาชนต้องได้รับผลกระทบถ้วนหน้า
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางที่ใช้แรงงานต่างด้าว กะเหรี่ยง-พม่าใน อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่รัฐบาลประกาศใช้ซึ่งครอบคลุมทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กจนอาจจะต้องปิดโรงงาน ซึ่งเรากำลังเจรจากับแรงงานเพื่อสร้างความเข้าใจว่าจะทำอย่างไรให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ หากแรงงานยังยืนยันที่จะรับค่าแรงตามประกาศขึ้นค่าแรงผู้ประกอบการก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจโรงงานต่อไปได้ เพราะค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
และในอนาคตสินค้าทุกชนิดในตลาดของเมืองไทยก็จะมีราคาสูงขึ้นตามอัตราค่าแรงงานที่สูงขึ้นเช่นกัน เมื่อค่าแรงแพง ราคาสินค้าก็ต้องแพงตามค่าใช้จ่ายแรงงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ผลกระทบก็ต้องตกที่ประชาชนชาวบ้านเช่นกัน
“เชื่อว่าอีก 1-2 เดือนนี้ราคาสินค้าทุกชนิดในตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
นายอ่องโมโจ แกนนำกลุ่มองค์กรแรงงานต่างด้าวชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่าในจังหวัดตาก กล่าวว่า แม้นโยบายค่าแรง 300 บาทของไทยจะเริ่มใช้ทั่วประเทศแล้วก็ตาม แต่แรงงานกะเหรี่ยง-พม่ายังคงมีรายได้เท่าเดิม โดยนายจ้างไม่ได้แจ้งหรือประกาศที่จะให้ค่าแรง 300 บาทแต่อย่างใด แม้ว่ากลุ่มองค์กรผู้ใช้แรงงานพม่าได้เคยร้องขอให้รัฐบาลไทยดูแลแรงงานกะเหรี่ยง-พม่าในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคบริการสังคม เช่นเดียวกับแรงงานไทย
“แรงงานพม่าที่มาขายแรงงานในภาคเกษตรในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า จังหวัดตาก ยังได้ค่าแรงงานที่ได้รับหลังประกาศขึ้นค่าแรง โดยยังคงได้รับเพียง 120 บาทต่อวันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แรงงานภาคเกษตรยังกินอยู่กับนายจ้าง จึงยังพึงพอใจ และยอมรับได้” นายอ่องโมโจกล่าว
