ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผ่าน 4 วันช่วง 7 วันอันตราย สถิติอุบัติเหตุ จ.เชียงใหม่พุ่งติดอันดับ 1 ของประเทศแล้ว แถมมีสิทธิ์ทำลายสถิติหลังเหลืออีกแค่ 2 ครั้งจะเท่าสถิติปีก่อนแต่ยังเหลืออีก 3 วันจะครบ 7 วันอันตราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คนแล้ว ด้านการจราจรทั่วเมืองรถแน่นขนัดแทบทุกสาย คาดคืนนี้ในตัวเมืองติดหนักเหตุคนแห่ออกมาร่วมเคานต์ดาวน์ฉลองปีใหม่
จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุของจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 10 รายแล้วในวันนี้ (31 ธ.ค. 2555) หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ขณะที่สถิติจำนวนอุบัติเหตุรวมของจังหวัดเชียงใหม่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเหตุเกิดขึ้น 28 ครั้ง ทำให้ยอดรวมอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเป็น 89 ครั้งแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติจำนวนอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 91 ครั้งอย่างมาก แม้จะยังเหลือระยะเวลาอีกถึง 3 วันจึงจะสิ้นสุดช่วง 7 วันอันตรายของปี 2556 ก็ตาม
ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายที่เสียชีวิตเมื่อคืนวานนี้เป็นเพศชายทั้งหมด เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สันป่าตอง 3 ราย อ.ดอยหล่อ 1 ราย และ อ.สันทราย 1 ราย ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 27 ราย เป็นชาย23 ราย หญิง 4 ราย ส่งผลให้ยอดผู้บาดเจ็บรวมตลอด 4 วันที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 91 รายแล้ว สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา การขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด และการขับรถเร็วเกินกำหนด รวมทั้งมีจักรยานยนต์เป็นพาหนะต้นเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุด
นอกจากนี้ จากสถิติดังกล่าวทำให้ในขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตของจังหวัดเชียงใหม่ยังสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศอีกด้วย
ด้านสภาพการจราจรของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ พบว่ายังคงคับคั่งไปด้วยยานพาหนะต่างๆ โดยเฉพาะตามเส้นทางที่มุ่งไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เช่น ถนนห้วยแก้วมุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพ เส้นทางสายเชียงใหม่-แม่ริม และเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง เส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอดมุ่งหนาสู่ดอยอินทนนท์ ต่างมีรถสัญจรหนานแน่นในพื้นที่ทั้งสิ้น
ขณะที่ภายในตัวเมืองเชียงใหม่นั้น คาดว่าในช่วงบ่ายต่อเนื่องถึงเย็นวันนี้การจราจรจะติดขัดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการปิดถนนท่าแพเพื่อเปิดถนนคนเดินตั้งแต่ช่วงบ่าย รวมทั้งการเดินทางผู้ที่จะออกมาร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณข่วงประตูท่าแพที่จะมีการจัดงานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่สู่เชียงใหม่ 2013 (Chiangmai Countdown 2013) ขึ้นในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าร่วมงาน
จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุของจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 10 รายแล้วในวันนี้ (31 ธ.ค. 2555) หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 5 ราย ขณะที่สถิติจำนวนอุบัติเหตุรวมของจังหวัดเชียงใหม่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเหตุเกิดขึ้น 28 ครั้ง ทำให้ยอดรวมอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเป็น 89 ครั้งแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติจำนวนอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 91 ครั้งอย่างมาก แม้จะยังเหลือระยะเวลาอีกถึง 3 วันจึงจะสิ้นสุดช่วง 7 วันอันตรายของปี 2556 ก็ตาม
ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายที่เสียชีวิตเมื่อคืนวานนี้เป็นเพศชายทั้งหมด เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สันป่าตอง 3 ราย อ.ดอยหล่อ 1 ราย และ อ.สันทราย 1 ราย ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 27 ราย เป็นชาย23 ราย หญิง 4 ราย ส่งผลให้ยอดผู้บาดเจ็บรวมตลอด 4 วันที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 91 รายแล้ว สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา การขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด และการขับรถเร็วเกินกำหนด รวมทั้งมีจักรยานยนต์เป็นพาหนะต้นเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุด
นอกจากนี้ จากสถิติดังกล่าวทำให้ในขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตของจังหวัดเชียงใหม่ยังสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศอีกด้วย
ด้านสภาพการจราจรของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ พบว่ายังคงคับคั่งไปด้วยยานพาหนะต่างๆ โดยเฉพาะตามเส้นทางที่มุ่งไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เช่น ถนนห้วยแก้วมุ่งหน้าสู่ดอยสุเทพ เส้นทางสายเชียงใหม่-แม่ริม และเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง เส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอดมุ่งหนาสู่ดอยอินทนนท์ ต่างมีรถสัญจรหนานแน่นในพื้นที่ทั้งสิ้น
ขณะที่ภายในตัวเมืองเชียงใหม่นั้น คาดว่าในช่วงบ่ายต่อเนื่องถึงเย็นวันนี้การจราจรจะติดขัดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการปิดถนนท่าแพเพื่อเปิดถนนคนเดินตั้งแต่ช่วงบ่าย รวมทั้งการเดินทางผู้ที่จะออกมาร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณข่วงประตูท่าแพที่จะมีการจัดงานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่สู่เชียงใหม่ 2013 (Chiangmai Countdown 2013) ขึ้นในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าร่วมงาน