ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเปิดตัว “คริสต์มาส” ลูกสมเสร็จเพศผู้ตัวใหม่ เผยเป็นลูกสมเสร็จตัวที่ 4 ในรอบ 5 ปี เป็นเพศผู้ตัวแรก ด้าน ผจก.ปลื้มสามารถเพาะพันธุ์สัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์ได้ เล็งนำออกโชว์ตัวครั้งแรกช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่วนปีหน้าเตรียมเปิด “แอมฟิเธียเตอร์” ส่วนแสดงสัตว์กลางแจ้งเป็นจุดขายเพิ่ม
วันนี้ (22 ธ.ค.) ดร.ศราวฒิ ศรีสกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า ขณะนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นลูกสมเสร็จเพศผู้ ซึ่งเกิดจากพ่อสมเสร็จชื่ออ๊วก วัย 11 ปี และแม่สมเสร็จมารวย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นลูกสมเสร็จตัวที่ 4 ที่ถือกำเนิดจากพ่ออ๊วก จากที่ก่อนหน้านี้ ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ 3 ตัว ในปี 2551, 2552 และ 2554 ทั้ง 3 ตัวเป็นเพศเมียทั้งหมด
ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่า ได้ตั้งชื่อให้ลูกสมเสร็จตัวใหม่ว่า “คริสต์มาส” เนื่องจากถือกำเนิดในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จึงตั้งชื่อดังกล่าวเพื่อสื่อถึงการมอบลูกสมเสร็จให้เป็นของขวัญแก่ชาวเชียงใหม่ อีกทั้งยังถือเป็นครั้งแรกที่ตนซึ่งเป็นผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้มีโอกาสตั้งชื่อให้แก่สัตว์ที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีด้วย
“สุขภาพของคริสต์มาสถือว่าแข็งแรงสมบูรณ์ดี อยู่ภายใต้ความดูแลของแม่มารวย และเจ้าหน้าที่ ซึ่งแม่มารวยยังค่อนข้างหวงลูก จะแสดงอาการตื่นตกใจหากมีคนเข้าใกล้ ประกอบกับลูกสมเสร็จถือกำเนิดได้ไม่นาน จึงยังดูแลภายในโรงเรือน ยังไม่ได้นำออกมาแสดงให้ประชาชนชม อย่างไรก็ตาม ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดว่าจะทดลองปล่อยลูกสมเสร็จเข้าสู่ส่วนจัดแสดง เพื่อให้ประชาชนได้ชมกัน”
ดร.ศราวุฒิ กล่าวว่า การเพาะขยายพันธุ์สมเสร็จได้ในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่น่ายินดี เนื่องจากตามธรรมชาติสมเสร็จมีระยะเวลาของฤดูผสมพันธุ์จำกัด และตั้งท้องนานถึง 390-395 วัน ออกลูกเพียงครั้งละ 1 ตัว นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นสายพันธุ์สัตว์ป่าที่หาได้ยาก โดยนอกจากจะถือเป็น 1 ใน 15 ชนิดสัตว์ป่าสงวนของไทยแล้ว ยังเป็นสัตว์ที่อนุสัญญาไซเตส (CITES) จัดให้เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย ซึ่งการที่สามารถขยายพันธุ์ได้สำเร็จ รวมทั้งได้ตัวผู้ด้วย จะช่วยขยายโอกาสในการขยายพันธุ์สมเสร็จให้มากขึ้นได้ในอนาคต
“สำหรับผลการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีปี 2555 ถือว่าน่าพอใจ โดยในเดือนธันวาคม เดิมคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ไม่มีกิจกรรมขนาดใหญ่กระตุ้นตลาด เช่น มหกรรมพืชสวนโลกเหมือนปีที่ผ่านมา”
ดร.ศราวุฒิ กล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 2556 ว่า มีแผนที่จะลงทุนทำเวทีแสดงกลางแจ้ง และแอมฟิเธียเตอร์ เพื่อนำสัตว์มาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมเช่นเดียวกับสวนสัตว์กลางคืนของสิงคโปร์ โดยตั้งงบประมาณไว้ 35 ล้านบาท เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ภายในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทั้งแสดงสัตว์แบบกลางแจ้ง และปริมาณสัตว์ที่นำมาแสดง ซึ่งจะมีมากกว่าที่สวนสัตว์กลางคืนของสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
“สำหรับเทศกาลคริสต์มาส และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะจัดเตรียมซานตาคลอสประจำตามเส้นทาง รวม 3 คน เพื่อแจกของขวัญให้แก่เด็กๆ ขณะเดียวกัน ในวันที่ 25 และ 26 ธันวาคม เด็ก และเยาวชนที่อายุยังไม่ถึง 15 ปี จะได้รับสิทธิเข้าเที่ยวชมฟรี นอกจากนี้ จะมีการจัดเคานต์ดาวน์ฉลองต้อนรับปีใหม่ด้วย”