เถ้าแก่ใบชาดอยแม่สลองเปิดไร่-โรงอบดึงคนเที่ยว

เชียงราย - เถ้าแก่ใบชาบนดอยแม่สลอง เปิดไร่-โรงอบโชว์ ดึงคนขึ้นดอยสัมผัสลมหนาว พร้อมจี้รัฐช่วยกรุยทางส่งตรงเข้าตลาดจีนที่พร้อมรับไม่จำกัด จากเดิมที่ต้องส่งผ่านให้ไต้หวันทำแพ็คเกจจิ้งก่อนส่งเข้าจีนมานาน

วันนี้(21 ธ.ค.)นายรุ่งโรจน์ ลิมปะนะพฤกษ์ ประธานบริษัทชา 101 จำกัด ซึ่งมีไร่ชา 101 อยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านสันติคีรี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวมาที่ดอยแม่สลอง และเข้าชมไร่ชา ร้านค้า ร้านอาหาร โรงงานอบและบรรจุผลิตภัณฑ์ชาของบริษัทเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางไร่อนุญาตให้เข้าชมฟรี เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศของขุนเขา ซึ่งบริษัทยังมีที่ดินเหลืออีกประมาณ 10 ไร่ กำลังพัฒนาให้เป็นรีสอร์ทขนาด 40 ห้อง พร้อมร้านอาหาร เพื่อให้เป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยว คาดว่าปี 2556 จะเปิดให้บริการได้

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า สำหรับตลาดใบชาของบริษัทนอกจากจำหน่ายในประเทศภายใต้ผลิตภัณฑ์ไร่ชา 101 แล้ว ยังส่งเป็นชาอบแห้งบรรจุกล่องไปยังต่างประเทศ ล่าสุดส่งสหรัฐประมาณ 4 ตัน ที่เหลือส่งไปไต้หวัน ซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญของไทย โดยเฉพาะชาดอยแม่สลองที่รับซื้อกันมานาน โดยราคาขายส่งแยกเป็นชาอู่หลงเบอร์ 12 กิโลกรัมละประมาณ 600 บาท และอู่หลงก้านอ่อน กิโลกรัมละประมาณ 700 บาท ขายปลีกราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าราคาใบชาของไทยเป็นที่ยอมรับ แม้จะมีใบชาเวียดนามเริ่มออกสู่ตลาด ราคาเพียงกิโลกรัมละ 250 บาท แต่ตลาดก็ยังนิยมใบชาจากไทย โดยเฉพาะดอยแม่สลอง เพราะมีคุณภาพดี เมื่อนำไปชงจะได้น้ำชาสีเหลืองเขียว ที่ดูสวยงาม รสชาติดี และกลิ่นหอมกว่าชาชนิดอื่นๆ

"ระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเริ่มส่งออกผ่านทางเรือแม่น้ำโขงที่อ.เชียงแสน ไปยังท่าเรือเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา และขนส่งทางรถไปเมืองคุนหมิง มณฑลยูนาน ก่อนจะนำขึ้นเครื่องบินส่งไปยังเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ขณะนี้ได้ทดลองส่งออกไปแล้ว 3-4 ตัน พบว่าตลาดจีนที่ได้บริโภคมีความนิยมใบชาไทยมาก"

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการส่งใบชาไปยังไต้หวันนั้น ผู้ประกอบการที่ไต้หวันนำไปบรรจุเป็นของไต้หวันเอง แล้วส่งขายยังตลาดจีน ซึ่งพบว่าไม่พอขาย เพราะตลาดจีนมีความต้องการมาก ดังนั้นเมื่อทดลองส่งขายจีนโดยตรงนับว่าได้ผลมาก แม้ระยะแรกมีปัญหาบ้าง เพราะผู้ประกอบการจีนยังไม่ทราบว่ามีใบชาประเภทนี้ปลูกในประเทศไทย โดยเฉพาะดอยแม่สลอง แต่รู้จักใบชาคุณภาพดีในนามไต้หวัน จึงคิดว่าเป็นใบชาไต้หวัน

"จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐช่วยสนับสนุนสินค้าไทยชนิดนี้ด้วย โดยชี้นำไปยังตลาดจีนว่าไทยมีสินค้าใบชาที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล เพื่อเป็นการเปิดตลาดให้กับภาคเอกชน จากเดิมที่ต้องส่งเป็นวัตถุดิบเข้าไต้หวันก่อน"

ทั้งนี้ ดอยแม่สลอง เป็นแหล่งปลูกชาแหล่งใหญ่ของไทย มีพื้นที่นับหมื่นไร่ เป็นใบชาอัสสัมหรือชาพื้นเมืองประมาณ 60% และชาอู่หลงประมาณ 40% ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ มูลค่าปีละกว่า 500 ล้านบาท