ตร.กรุงเก่ามุ่งปมขัดผลประโยชน์ยิงถล่ม “นายก อบต.พระแก้ว”

พระนครศรีอยุธยา - ผบก.กรุงเก่าเรียกชุดสอบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ประชุมวางแนวทางสืบสวนคดีคนร้ายยิงถล่ม “นายก อบต.พระแก้ว” มุ่งประเด็นขัดผลประโยชน์ เนื่องจากผู้ถูกยิงทำงานตรงไปตรงมา ทั้งการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด และให้เบาะแสของผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อาจจะทำให้ผู้สูญเสียผลประโยชน์ไม่พอใจ ส่งมือปืนมาลอบยิง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายขับรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สี่ประตูสีดำ ไม่ทราบหมายทะเบียน ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มรถเบนซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน กต 2590 พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายบำรุง ก้อนทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระแก้ว ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขน และ น.ส.ภัทราวดี ซอกดุล นักพัฒนาชุมชน อบต.พระแก้ว คนขับรถถูกยิงที่อกขวาทะลุหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณถนนคันคลองชลประทาน หมู่ 4 ต.พระแก้ว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยาว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวน สภ.ภาชี เพื่อวางแนวทางสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่นายบำรุง ทำงานตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเรื่องการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และให้เบาะแสของผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และอาจจะทำให้ผู้สูญเสียผลประโยชน์ไม่พอใจ ส่งมือปืนมาลอบทำร้าย

ส่วนเรื่องขัดแย้งการทางเมืองท้องถิ่น จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบมีความเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อใช้เป็นแนวทางติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

นายไพรัตน์ หอมมณฑา อายุ 47 ปีน้องภรรยานายบำรุง และเป็นประธานสภา อบต.พระแก้ว เปิดเผยว่า นายบำรุง เป็นนายกมา 3 สมัยแล้ว ไม่เคยมีเรื่องกับคนร่วมงานหรือในที่ทำงาน ดังนั้น เรื่องภายในการเมืองท้องถิ่นไม่น่ามีปัญหา ส่วนเรื่องที่ห้ามรถบรรทุกดินวิ่งนั้น ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากยังไม่ถึงกับห้าม โดยเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาได้มีการแจ้งในที่ประชุมถึงระเบียบและกฎหมายควบคุมการขุดหน้าดิน และการอนุญาตให้รถบรรทุกน้ำหนักเท่าใดสามารถวิ่งได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีรถบรรทุก 6 ล้อวิ่งดินกันอยู่ ไม่มีใครกระทบ แต่การทำประชาพิจารณ์และแจ้งให้ที่ประชุมทราบนั้น อาจจะทำให้ใครที่จะประกอบการทำรถบรรทุกหนักสิบล้อไม่พอใจก็เป็นได้ เนื่องจากเกรงว่าเมื่อมีการแจ้งอย่างนั้นอาจจะวิ่งไม่ได้ ก็เปิดบ่อดินไม่ได้ จึงเกิดความไม่พอใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่ทราบว่าไปทำให้ใครไม่พอใจ คงต้องให้ตำรวจสืบสวนก่อน

ด้านนางศรีสุรางค์ ก้อนทอง อายุ 45 ปี ภรรยาของนายบำรุง อยู่บ้านเลขที่ 52/1 ม. 4 ต.พระแก้ว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายบำรุง ออกจากบ้านไปประมาณ 19.00 น.ซึ่งปกติตอนกลางคืนจะไม่ขับรถเอง และได้ให้จนท.หรือคนสนิทขับรถให้ ส่วนตัวเองจะกำปืนตลอดเวลา ส่วนเรื่องที่ต้องกำปืนตลอดเวลานั้นเป็นนิสัยของนายบำรุงอยู่แล้วที่ไม่ค่อยไว้ใจใคร แต่ก็ไม่เคยบอกว่ามีใครจะมาลอบทำร้าย ซึ่งเป็นการระวังตัวมากกว่า หลังจากเกิดเหตุก็มีสติดี ขับรถเข้าไปที่บ้านของนายบุญเลิศ สุขโชติ อายุ 67 ปี เลขที่ 43/1 ม.4 ต.พระแก้ว ซึ่งนายบำรุง นับถือเป็นน้า ห่างจากที่เกิดเหตุ 1 กิโลเมตร เมื่อเข้าไปจอดที่บ้านก็ตะโกนให้นายบุญเลิศ หยิบอาวุธปืนลูกซองยาวลงมา เนื่องจากปืนของนายบำรุง ยิงไล่หลังคนร้ายไปจนกระสุนหมด เกรงว่าคนร้ายจะตามมา ซึ่งหลังไม่มีเหตุการณ์อะไร ก็นำ น.ส.ภัทราวดีไปส่งโรงพยาบาล