สุรินทร์ - ผู้ตรวจ ก.สาธารณสุขเขต 14 และคณะ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบกองขยะติดเชื้อนับหมื่นชิ้นที่ถูกลักลอบนำทิ้งไว้บริเวณป่าพนมดิน อ.ท่าตูม สุรินทร์ เผยให้เทศบาลวารินชำราบนำไปกำจัดเผาทำลายในเตาเผาขยะติดเชื้อแล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ พร้อมแจ้ง ตร.ดำเนินคดีผู้ลอบนำขยะมาทิ้งแล้ว ขณะที่ดีเอสไอลงรวบรวมข้อมูลชงเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท้ายป่าสงวนแห่งชาติป่าพนมดิน ติดกับป่าสาธารณประโยชน์ภูดิน ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบกองขยะติดเชื้อที่มีผู้ลักลอบนำขวดยา เข็มฉีดยา ขวดน้ำเกลือ ถุงเลือด และอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ต่างๆ ใช้แล้วจำนวนมากมาทิ้งไว้นับหมื่นชิ้นและเผาทำลายอย่างไม่ถูกวิธี ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นฉุนของยาและสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณตามที่เป็นข่าวอื้อฉาวไปก่อนหน้านี้
โดยในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่เทศบาลอำเภอวารินทร์ชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานีเข้าร่วมด้วย เนื่องจากเทศบาลอำเภอวารินทร์ชำราบมีเตาเผาขยะติดเชื้อได้มาตรฐาน เพื่อจะได้นำขยะติดเชื้อดังกล่าวไปเผาทำลายอย่างถูกวิธีต่อไป
นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 กล่าวว่า จากการตรวจสอบกองทิ้งขยะติดเชื้อที่มีผู้ลักลอบนำมาทิ้งในชายป่าดังกล่าวพบว่า ขยะทั้งหมดได้ถูกแสงแดดเผา และบางส่วนมีการเผาทำลายไปแล้วจึงไม่มีเชื้อแล้ว ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะให้เทศบาลอำเภอวารินทร์ชำราบ จ.อุบลราชธานี นำขยะที่หลงเหลือนำไปเผาทำลายยังเตาเผาขยะติดเชื้อต่อไป คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์คงแล้วเสร็จ
ในส่วนของผู้กระทำผิดคือบริษัทรับเหมาขนขยะนั้น ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอท่าตูม โรงพยาบาลท่าตูม และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ลักลอบนำขยะมาทิ้งตามกฎหมายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (18 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงพื้นที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพื่อรวบรวบข้อมูลว่าเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับความมั่นคง และเกี่ยวกับสารพิษอันตรายหรือไม่ เพื่อเสนอเป็นคดีพิเศษดำเนินการต่อกลุ่มผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดต่อไป
