ชาวเชียงใหม่ร่วมใจปั่นจักรยานรอบเมือง รณรงค์รับวันสิ่งแวดล้อมไทย

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมใจเคลื่อนขบวนปั่นจักรยานรอบเมือง 3 เส้นทาง รณรงค์ให้คนเชียงใหม่หันมาใช้จักรยานรับวันสิ่งแวดล้อมไทย 4 ธ.ค. “ทัศนัย” ชี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งรุนแรง ส่งผลกระทบมาก หวังขบวนจักรยานจุดประกายคนเชียงใหม่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

วันนี้ (4 ธ.ค.) นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 300 คน เข้าร่วมพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์วันสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี 2555 “เจียงใหม่ม่วนใจ๋...หมู่เฮาใจ๊รถถีบ” ณ ข่วงประตูท่าแพ โดยมีนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เป็นประธานในพิธี

กิจกรรมดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี 2555 มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดจิตสำนึก และตระหนักต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

โดยในปีนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้เลือกการปล่อยขบวนจักรยานรณรงค์ออกไปใน 3 เส้นทางประกอบด้วย เส้นทาง “ม่วนใจ๋...ปั่นไปแอ่วกาด” เคลื่อนขบวนจักรยานออกจากข่วงประตูท่าแพไปสู่ตลาดประตูเชียงใหม่ เส้นทาง “ม่วนใจ๋...ปั่นไปแอ่ววัด” เคลื่อนขบวนออกจากข่วงประตูท่าแพ มุ่งหน้าสู่วัดพันอ้น วัดชัยพระเกียรติ และวัดอินทขีล และเส้นทางเส้นทาง “ม่วนใจ๋...ปั่นปลิดภัยในคูเมือง” เคลื่อนขบวนออกจากข่วงประตูท่าแพไปตามเส้นทางรอบคูเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 3 เส้นทาง มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนนำจักรยานเข้าร่วมขบวนรณรงค์เป็นจำนวนมาก

นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่กล่าวว่า ปัจจุบัน ปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทวีความรุนแรง และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ที่การขยายตัวของเมือง และจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น นำมาซึ่งปัญหามลพิษต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของชาวเชียงใหม่ ดังนั้น เรื่องดังกล่าวจึงถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกๆ ฝ่ายจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าอยู่ และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวยังคงต้องการที่จะมาเยือนต่อไป

นายทัศนัย กล่าวต่อว่า สำหรับการรณรงค์ให้ชาวเชียงใหม่หันมาใช้จักรยานนั้นถือเป็นแนวคิดที่ดี เนื่องจากการใช้จักรยานในการเดินทางในชีวิตประจำวันจะสามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดปัญหาการจราจร รวมทั้งยังเป็นการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนหวังว่า การรณรงค์ของทุกฝ่ายในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการเติบโตของการใช้จักรยานในเมืองเชียงใหม่ และนำมาซึ่งความตระหนักถึงความร่วมมือในการร่วมกันป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของเมืองเชียงใหม่ในอนาคตอีกด้วย