ระยอง - ชาวบ้านมาบข่า 76 คน มอบอำนาจให้สภาทนายความฟ้อง 7 หน่วยงานรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังมีคำสั่งระงับการก่อสร้างโรงงานผลิตถ่านหินโค้ก ต่อศาลปกครองระยอง
วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ศาลปกครองระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง นายขจรศักดิ์ จันทร์มณี อายุ 54 ปีบ้านเลขที่ 1/17 ถนนชากดาวเรือง ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยองและตัวแทนชาวบ้าน พร้อมด้วยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ นำโดยนางรัตนา ผาแก้ว เลขากรรมการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ และคณะผู้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านมาบข่า รวม 76 คน พร้อมสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยอง โดยมีนายปฐมพร วีระกุลพิริยะ ผอ.กลุ่มสนับสนุนงานคดีและบังคับคดีศาลปกครองระยอง ผู้รับสำนวนคำฟ้อง
นางรัตนา ผาแก้ว เลขากรรมการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ซึ่งเป็นหน่วยงานปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
สำหรับการดำเนินการครั้งนี้ ผู้ฟ้องได้มอบอำนาจให้ 1.นางรัตนา ผาแก้ว เลขากรรมการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ 2.นายธนวัฒน์ ตาสัก 3.นายธนกฤต วิจิตรนวกุล 4.น.ส.รำไพ ชำนาญเพชร และ 5.นายสำนวน ประพิณ กรรมการสิ่งแวดล้อมสภานายความและอนุคดี ดำเนินการฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 อุตสาหกรรม จ.ระยอง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6 และนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 7 ต่อศาลปกครองระยอง
รายละเอียดคำฟ้องระบุว่า บริษัท ไทยเจนเนอรัลไนซ์โคล แอนด์โค้ก จำกัด โรงงานผลิตถ่านโค้ก ตั้งอยู่ริมถนนบายพาสสาย 36 ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง กระทำการฝ่าฝืนก่อสร้างโรงงานทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงาน โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 และที่ 5 ได้มีคำสั่งให้หยุดการฝ่าฝืนคำสั่งแล้ว แต่บริษัทดังกล่าวยังดำเนินการก่อสร้าง และมีแผนงานที่จะทดลองเตาปฏิกรณ์ในการผลิตถ่านหินโค้ก และนำถ่านหินเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากปล่อยให้บริษัทฯ ดำเนินการต่อไปจะก่อให้เกิดมลพิษกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพความเป็นอยู่ของผู้ฟ้องคดีทั้ง 76 ราย และชุมชนมาบข่า-สำนักอ้ายงอน ชุมชนห้วยโป่งและชุมชนใกล้เคียง ยากแก่การแก้ไขเยียวยาภายหลังให้กลับมามีสภาพเดิมได้ หากศาลปกครองระยองมีคำสั่งให้นำมาตรการวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษามาบังคับใช้ ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการแต่อย่างใด
เพราะการดำเนินการของบริษัทฯ เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฏหมาย และอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีอาญาคดีที่ผู้ฟ้องแจ้งความบริษัท ไทยเจนเนอรัลไนซ์โคล แอนด์โค้ก จำกัด ฝ่าฝืนคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ท้ายคำฟ้องผู้ฟ้องคดีทั้ง 76 รายยื่นคำร้องต่อศาลปกครองระยองได้กำหนดมาตรการวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้ในคดีนี้เพื่อระงับการก่อสร้าง ประกอบกิจการโรงงาน และการผลิตไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ด้านนายขจรศักดิ์ จันทร์มณี ผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า ที่ผ่านมานายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตผู้ว่าราชการ จ.ระยอง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง ได้ลงนามคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง บริษัท ไทยเจนเนอรัลไนซ์โคล แอนด์โค้ก จำกัด แต่บริษัทฯ ยังมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยชาวบ้านมาบข่า เดินทางไปพบปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง
หลังจากนั้น ในเดือนกันยายนทราบข่าวว่า มีการเซ็นอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง. 4) ให้แก่บริษัทฯดังกล่าว จึงทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยกเลิก เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน โดยกล่าวว่า พื้นที่ตั้งบริษัท ไทยเจนเนอรัลไนซ์โคล แอนด์โค้ก จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ พ.ศ.2552 โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม
นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งระงับการก่อสร้าง รัฐมนตรีสั่งระงับ และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมก็สั่งระงับ ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักนายกรัฐมนตรีก็มีคำสั่งให้ระงับ แต่ทุกวันนี้ ยังไม่หยุดการก่อสร้าง ทำไมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการจึงต้องพึ่งสภาทนายให้ดำเนินการฟ้องหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 7 หน่วยงานกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร