ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพทหารเสียชีวิตจากชายแดนใต้
เวลา 16.00 น. วันนี้ (24 พ.ย.) ที่เมรุวัดเขาคันธมาทน์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ พ.จ.อ.ศิริ ดำรอด อายุ 45 ปี สังกัดกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ปฏิบัติราชการชายแดนภาคใต้ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ อ.เมือง จ.นราธิวาส และได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรชั้นยศนาวาเอก
สำหรับ พ.จ.อ.ศิริ ดำรอด ได้เสียชีวิตหลังจากได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนเดินเท้าเข้าพิสูจน์ทราบบริเวณพื้นที่บ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 24.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย.55 หลังจากจบภารกิจแล้วได้รับคำสั่งให้เดินทางเข้าสมทบกับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บังคับหมู่ลาดตระเวน ทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่บ้านบาตู ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
ขณะเตรียมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น พ.จ.อ.ศิริ ดำรอด ได้เกิดอาการหน้ามืดกะทันหัน และล้มศีรษะกระแทกพื้น ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษายัง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเข้ารับการรักษา และผลการตรวจพบว่า เส้นโลหิตในสมองแตก จึงได้รีบนำตัวส่งเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ.ศูนย์ยะลา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 18 พ.ย.55
ต่อมา กองทัพเรือได้นำเครื่องบินลำเลียงไปรับศพมาบำเพ็ญกุศล ณ วัดเขาคันธมาทน์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกำลังพลของกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ที่ทราบข่าวต่างเข้าร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศลศพเป็นจำนวนมาก โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพวงมาลาหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระราชทานพวงมาลาพระราชทาน โดยทรงมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นผู้อัญเชิญพวงมาลาหลวง และพวงมาลาพระราชทานวางหน้าหีบศพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.55 ที่ผ่านมา
ในโอกาสเดียวกันนี้ กองทัพเรือ โดยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินยังได้ให้หน่วยต้นสังกัดพิจารณาปูนบำเหน็จความดีความชอบ รวม 5 ชั้น ขอพระราชทานเลื่อนยศเป็นนายทหารสัญญาบัตรชั้นยศนาวาเอก เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจแก่ครอบครัวของผู้วายชนม์ ตลอดจนกำลังพลในส่วนอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้รับสิทธิ ถึงแม้ว่าจะมิได้เสียชีวิตจากการถูกลอบยิง หรือถูกลอบวางระเบิดจากผู้ก่อความไม่สงบก็ตาม