ตราด-หน.ศูนย์ทุ่นระเบิดแห่งชาติตรวจพื้นที่ตราด พบอุปสรรคมากส่งพื้นที่ได้ช้า เหตุงบ และกำลังพล รวมถึงเครื่องจักรมีปัญหา ระบุเขตพื้นที่ 105 ตร.กม. ขอขยายถึงปี 2561 ทัน AEC
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด พล.ท.สีหนาท วงศาโรจน์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดที่ 2 ทร. มี น.อ.สุทธิพจน์ อนันตชัย หัวหน้าศูนย์และเจ้าหน้าที่ต้อนรับ และนำไปชมพื้นที่เก็บกู้ระเบิดในพื้นที่อ่างเก็บน้ำสะพานหิน และชมการปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดที่ได้สาธิตในพื้นที่จริง
จากนั้น น.อ.สุทธิพจน์ อนันตชัย นำไปชมอุปกรณ์ และเครื่องกลที่ใช้ในการปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิด ซึ่งบางส่วนชำรุดโดยเฉพาะรถจักรกลเตรียมพื้นที่เก็บกู้ระเบิดที่สามารถทนแรงระเบิดได้ แต่ปัจจุบัน ชำรุด และไม่สามารถใช้ในการปฏิบัติได้ ต้องหันมาใช้เครื่องที่ใช้รีโมตบังคับที่มีประสิทธิภาพในการควบคุม 50-100 เมตร
พล.ท.สีหนาท กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการระเบิดแห่งชาติเป็นศูนย์ที่มีหน้าที่ในการเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ชายแดนรอบประเทศไทยมีอยู่ 4 ศูนย์ ทางเหนือ (พม่า) ทางประเทศลาว, ทางกัมพูชา (2 แห่ง) โดยทางกองทัพไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสนธิสัญญาของสหประชาชาติ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากต่างประเทศและจากกองทัพไทย
ที่ผ่านมา ได้ทำการเก็บกู้ระเบิดได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ลงนามไว้ จึงได้มีการดำเนินการต่อเวลาไปอีกจนถึงปี 2561 หรือในเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ การเดินทางมาในพื้นที่ของ นปท.2 ทร. ในวันนี้ได้รับทราบปัญหาต่างๆ หลายประการ โดยเฉพาะเครื่องจักรที่ในการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด กำลังคน และงบประมาณ ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการระเบิดแห่งชาติจะแก้ไขให้ทาง นปท. 2 ทร.โดยเร็ว
“การขอขยายเวลาออกไปอีก 5 ปี จนถึงปี 2561 จะทำให้การทำการแล้วเสร็จก่อนประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 หรือประมาณ 4 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ทางศูนย์ฯ ไม่เพียงจะเก็บกู้ระเบิด แต่ยังได้เข้าไปเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิด เช่น มอบสิ่งของ มอบขาเทียม หรือช่วยเหลือด้านอาชีพเพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้” พล.ท.สีหนาทกล่าว
น.อ.สุทธิพจน์ กล่าวว่า สำหรับในเขตพื้นที่ นปท. 2 ทร. ยังมีพื้นที่อีก 105 ตร.กม. ที่ยังต้องดำเนินการให้การเก็บกู้ระเบิด และในปีที่ผ่านมา ก็ได้มอบพื้นที่ให้แก่ จ.ตราดมาแล้ว 3-4 ครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่อ่างเก็บน้ำสะพานหินเพื่อให้ประชาชนเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ทำกินได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ป่าไม้ ในส่วนของการประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาซึ่งมีพื้นที่ทุ่นระเบิดจำนวนมาก และก็มีการเก็บกู้ระเบิดด้วยเช่นกัน แต่ในพื้นที่กัมพูชาจะมีภาคเอกชนของกัมพูชาเก็บทุ่นระเบิดอยู่ ซึ่งมีพื้นที่ทุ่นระเบิดมากกว่าไทยจำนวนมาก