พิษณุโลก - ตัวแทนชาวเขาเผ่าม้งบุกกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทวงถามข้อเรียกร้องขอกลับภูมิลำเนาเดิม “ภูขี้เถ้า” พื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด เลย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ ที่กลายเป็น อช.ภูหินร่องกล้า ไปแล้ว หลังเรื้อรังมานานหลายสิบปี แถมเคยถูกป่าไม้ขับไล่ซ้ำ
วันนี้ (23 พ.ย.) ตัวแทนชาวเขาเผ่าม้งประมาณ 27 คน นำโดยนายสุทธิเกียรติ ทรงอุดมลักษณ์ ได้เดินทางมาขอเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 3 ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 เพื่อเรียกร้องที่ดินทำกิน และขอกลับไปภูมิลำเนาเดิมบริเวณภูขี้เถ้า ต.กกกระทอน จ.เลย (เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รอยต่อ 3 จังหวัด เลย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์) ซึ่งเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 โดย พ.อ.ธนา จารุวัต ผอ.ศูนย์ประสานความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก ได้เป็นตัวแทน มทภ.3 และประสานให้รับหนังสือบริเวณประตูหลังค่ายสมเด็จฯ
ทั้งนี้ หนังสือของกลุ่มชาวเขาเผ่าม้งดังกล่าวได้ระบุข้อเรียกร้อง 3 ประการคือ 1. การประกาศเขตอุทยานฯ ทับพื้นที่ภูขี้เถ้า ซึ่งเป็นพื้นที่นิคมสร้างตนเองและสงเคราะห์ชาวเขานั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 2. ต้องการกลับภูมิลำเนาเดิมบ้านขี้เถ้าเพียงแต่ประการเดียว 3. ให้รัฐบาลดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินในเขตนิคมสร้างตนเองและสงเคราะห์ชาวเขา ให้ชาวบ้านคนละ 15 ไร่
พ.อ.ธนากล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มชาวเขาต้องการจะกลับภูมิลำเนาเดิมที่บ้านภูขี้เถ้า ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จึงไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่ได้เหมือนเดิม จึงมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้ใหม่ แต่ถ้าจัดไม่ได้ก็จะมีการเสนอให้เงินช่วยเหลือรายละ 220,500 บาท ในฐานะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งปัญหาดังกล่าวต้องนำมาพิจารณาอีกครั้ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปี 2511 ทางราชการได้มีนโยบายให้กลุ่มชาวเขาเผ่าม้งกลับใจที่อยู่ในพื้นที่ภูขี้เถ้าให้ทำการย้ายไปอยู่ที่บริเวณบ้านตูบค้อในปัจจุบัน เพื่อเปิดทางให้ทางการทำสงครามในพื้นที่ดังกล่าว หลังสงครามยุติทางการได้ประกาศนโยบาย 66/23 โดยมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้กลุ่มชาวเขากลับใจไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังมีกลุ่มชาวเขาเผ่าม้งที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการ จนทำให้มีการเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ทางราชการได้เสนอให้เงินช่วยเหลือกลุ่มชาวเขาที่เดือดร้อน แต่ทางกลุ่มชาวเขาไม่ขอรับ ยืนยันต้องการกลับไปที่ภูขี้เถ้าภูมิลำเนาเดิมเท่านั้น โดยทางการไม่สามารถอนุญาตได้เนื่องจากบริเวณดังกล่าวได้ประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าไปแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อปี 2551 สำนักอนุรักษ์บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เคยนำเฮลิคอปเตอร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวนกว่า 100 นายเข้าไปกดดันและผลักดัน พร้อมขับไล่ไม่ให้ชาวม้งปักหลักในพื้นที่ภูขี้เถ้ามาแล้ว จากนั้นกลุ่มม้งดังกล่าวได้เข้าร้องเรียนต่อกองทัพภาคที่ 3 หลายครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า หรือหาข้อสรุปไม่ได้