ชาวนาสุรินทร์ผวาโจรลักข้าว จัดเวรยามนอนเฝ้า-เร่งจ้างรถเก็บเกี่ยวไม่เว้นกลางคืน

สุรินทร์ - ชาวนาสุรินทร์ผวาโจรลักข้าวเปลือกอาละวาดหนัก พากันนอนเฝ้าและจัดเวรยามเดินตรวจตราข้าวหอมมะลิที่ตากแดดไว้ตามถนนลาดยางทางเข้าหมู่บ้านและสถานที่ต่างๆ ตลอดทั้งคืน พร้อมเร่งจ้างรถเก็บเกี่ยวข้าวไม่เว้นกลางคืน หวั่นโจรแสบขโมยเกี่ยวข้าวในนายามวิกาล

วันนี้ (22 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์กลุ่มโจรไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้รถยนต์มาขโมยขนข้าวเปลือกหอมมะลิของ นางสุกัญญา แสงงาม ครูชำนาญการโรงเรียนบ้านกระโดนค้อ ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ที่ตากแดดเอาไว้บริเวณถนนสายเขวาสินรินทร์-ศีขรภูมิ ไปกว่า 2 ตัน หรือกว่า 2,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 35,000-40,000 บาท เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุดช่วงค่ำที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านจารพัต ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พื้นที่ใกล้เคียงกับหมู่บ้านที่โจรขโมยข้าวเปลือกของครูสุกัญญา แสงงาม ไป พบว่าชาวนาได้เก็บเกี่ยวข้าวเปลือกหอมมะล ขึ้นจากนานำมาตากแดดไว้ตามถนนลาดยางทางเข้าหมู่บ้านกันจำนวนมากเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร (กม.) เนื่องจากไม่มีพื้นที่สำหรับตากข้าวเปลือกให้แห้งเพื่อลดความชื้นก่อนนำไปขายหรือนำไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/65 ตามจุดรับจำนำต่างๆ ของโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการ

นายสมถิ่น แปนแก้ว อายุ 56 ปี ชาวนาบ้านจารพัต ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ เปิดเผยว่า ได้นำข้าวเปลือกหอมมะลิที่เพิ่งเกี่ยวเสร็จเมื่อช่วงกลางวันกว่า 2,000 กิโลกรัมมาตากแดดไว้ริมถนนลาดยางเนื่องจากไม่มีพื้นที่ตากข้าว และนำรถปิกอัพมาจอดกางเต็นท์นอนกับลูกชายเพื่อเฝ้าข้าวเปลือกดังกล่าวเพื่อป้องกันข้าวถูกขโมย เนื่องจากช่วงนี้โจรลักข้าวเปลือกออกอาละวาดหนัก มีข่าวหมู่บ้านโน่นหมู่บ้านนี้ถูกโจรขโมยข้าวเปลือกออกมาตลอดเวลา

ฉะนั้นจึงต้องระมัดระวังให้มาก เพราะลงทุนลงแรงทำนามาทั้งปีก็หวังจะได้ข้าวไว้กิน ไว้ขาย เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวและใช้หนี้สินที่กู้เขามาลงทุน ซึ่งในอีก 2 วันหากฝนไม่ตก ข้าวที่ตากไว้แห้งดีแล้วจะรีบนำบรรจุกระสอบและนำไปเก็บไว้ในยุ้งฉาง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำรวจตามเส้นทางแยกจารพัต ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ ไปยังบ้านทำเนียบ ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ พบว่าชาวบ้านบางส่วนได้เร่งเก็บข้าวที่ตากแดดแห้งแล้วบรรจุกระสอบปุ๋ยเพื่อนำไปเก็บในยุ้งฉาง ขณะเดียวกัน ชาวนาอีกหลายรายต้องนอนเฝ้าข้าวเปลือกหอมมะลิที่เพิ่งเกี่ยวเสร็จมีความชื้นสูงนำมาตากไว้ตามถนนทางเข้าหมู่บ้าน และจับกลุ่มทำอาหารรับประทานร่วมกัน พร้อมจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนกันออกเดินลาดตระเวนตรวจตราข้าวที่ตากไว้ตามถนนลาดยาง และสถานที่ต่างๆ โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นหัวหน้าชุด ซึ่งได้ออกเดินตรวจตราข้าวเปลือกกันตลอดทั้งคืน

นอกจากนี้ยังพบว่า แม้เวลาดึกดื่นเที่ยงคืนชาวนายังจ้างรถจักรเกี่ยวข้าวมาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในนากันไม่หยุดหย่อนเพราะเกรงว่ากลุ่มโจรจะเข้ามาลักลอบเก็บเกี่ยวข้าวในนายามวิกาล ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวนาอ่อนแรงนอนหลับใหลไม่รู้ตัวจากการทำงานหนักมาทั้งวัน ส่วนค่าจ้างรถจักรเกี่ยวข้าวปีนี้อยู่ที่ไร่ละ 600-650 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาไร่ละ 100-150 บาท ซึ่งเจ้าของรถเกี่ยวข้าวอ้างว่าน้ำมันดีเซลมีราคาสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา