อ่างทอง - ชาวสวนชะอมอ่างทองเริ่มเดือดร้อนหนัก หลังอากาศแปรปรวนส่งผลชะอมไม่โตตัดไม่ทันขาย ขณะที่ต้องเปลี่ยนเวลารดน้ำหลังพบบางที่เป็นราน้ำค้างเสียหาย
วันนี้ (15 พ.ย.) นางจำเนียร นิ่มวรรน์ อายุ 52 ปี เกษตรกรชาวสวนชะอม หมู่ที่ 2 ต.โพธิ์รังนก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า หลังสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดอ่างทองแปรปรวนหนักในช่วง 1-2 ที่ผ่านมา ทำให้อากาศเริ่มเย็นลง และมีลมพัดแรง ส่งผลให้สวนชะอมเริ่มประสบปัญหาเนื่องจากสภาพอากาศที่มีลม และมีหมอกทำให้ต้นชะอมโตช้ากว่าปกติ และไม่สามารถเก็บยอดชะอมไปส่งขายได้ สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยปกติจะเก็บได้ถึงวันละ 200-300 กำ แต่หลังอากาศเย็นลงทำให้เก็บได้วันละเพียง 100-200 กำเท่านั้น ทำให้ต้องหันไปทำกิ่งชำขายแทน ซึ่งก็เป็นที่ต้องการของตลาด
นางจำเนียร เผยต่อว่า หากสภาพอากาศเย็นลงธรรมดาก็ไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ในช่วง 1-2 วันนี้ อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว และมีหมอกในตอนเช้า รวมไปถึงลมที่พัดแรงส่งผลให้ต้นชะอมเติบโตช้ากว่าปกติ นอกจากนี้ ยังต้องเปลี่ยนเวลารดน้ำจากเดิมในช่วงสายๆ กับช่วงเย็น เป็นช่วงเช้าเนื่องจากน้ำค้างที่ติดอยู่กับยอดชะอมในช่วงนี้จะทำให้เกิดโรคราน้ำค้างได้ และในช่วงบ่ายที่มีอากาศร้อนจัดก็ต้องรดน้ำช่วยไม่ให้เกิดอาการใบไหม้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ต้นชะอมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ราคาชะอมดีถึงกำละ 15 บาทจากสวน ขณะที่ในตลาดราคาสูงถึงกำละ 25-30 บาททำให้ขาดรายได้ไปเป็นจำนวนมาก
สำหรับในพื้นที่ ต.โพธิ์รังนก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เป็นแหล่งปลูกชะอมที่ใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศโดยปลูกกันทั้งตำบล ซึ่งที่ผ่านมา เพิ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 และเกษตรกรบางรายเพิ่งเริ่มเก็บผลผลิตได้แต่ก็ประสบปัญหาในเรื่องอากาศซ้ำอีก